ศูนย์ข่าวขอนแก่น- “หมอประเวศ” ราษฎรอาวุโส ชี้แนวทางปฏิรูปประเทศไทย ต้องปฏิรูปการเมืองอำนาจรัฐให้โปร่งใส ลดความเหลื่อมล้ำ ไม่รวมศูนย์อำนาจไว้ในส่วนกลาง ทั้งเสนอความคิดเห็นแก้ปัญหาข้อพิพาทไทย-เขมร นำยุทธศาสตร์ “สุวรรณภูมิ” ใช้อารยธรรมตะวันออกดั้งเดิมประสานรอยร้าว ควบคู่กับการจัดระบบเครือข่ายทั่วโลกมาสัมผัสความงดงามในวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณค่า
วันนี้ (14 ม.ค.) เครือข่ายศิลปินเพื่อการปฏิรูปภาคอีสาน ร่วมกับศิลปินอีสาน จัดประชุมระดมความคิดเห็นขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ภายใต้หัวข้อ “ศิลปะจะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สังคมไทยได้อย่างไร” มี ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ร่วมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ทิศทางการปฏิรูปประเทศไทย” โดยมีศิลปินอีสานหลากหลายแขนงร่วมประชุมกว่า 150 คน ณ ห้องประชุมโรงแรมขวัญมอ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโสในฐานะประธานกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังจากปาฐกถาพิเศษ ถึงแนวทางการปฏิรูปประเทศไทย ว่า จุดสำคัญที่สุดต้องปฏิรูประบบการเมือง อำนาจรัฐ ให้มีความโปร่งใสมากกว่านี้ โดยให้ชุมชนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมสร้างสังคม ทิศทางการพัฒนาประเทศจะต้องสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ นับเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของการปฏิรูปประเทศ
ส่วนใหญ่การแก้ปัญหาในประเทศไทยที่ผ่านมา มักจะแก้ไขตามอาการที่เกิดขึ้นแต่กลับไม่แก้ที่ต้นเหตุปัญหา เราต้องแก้ไขเชิงโครงสร้างที่ลึกที่สุด คือ แก้ที่จิตสำนึก รวมถึงแก้ไขโครงสร้างอำนาจรัฐ ที่รวมศูนย์ไว้ที่ส่วนกลาง ทำให้ท้องถิ่นอ่อนแอ กระทั่งไม่สามารถแก้ปัญหาต่างๆในท้องถิ่นได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องเอาพื้นที่เป็นตัวตั้ง ไม่ควรรวมศูนย์เหมือนที่ผ่านมา
ใช้อารยธรรมสุวรรณภูมิแก้ปัญหาไทย/เขมร
ขณะเดียวกัน ศ.นพ.ประเวศ ได้แสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความขัดแย้งกรณีพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการจับกุมคนไทยอยู่ขณะนี้ว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจุดสำคัญที่สุด จะต้องยับยั้งไม่ให้เกิดสงคราม เพราะจะทำให้คนล้มตายขึ้น ต้องรักษาชีวิตผู้คนเอาไว้
เดิมดินแดนในภูมิภาคเอเชีย ไม่ได้แบ่งแยกเขตแดน แบ่งแยกเชื้อชาติ ประชาชนในพื้นที่อยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้อง ส่วนเรื่องเขตแดนนั้น เป็นแนวคิดของชาวตะวันตก เอาเงินเป็นตัวตั้ง แก่งแย่งแข่งขัน แสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งชาวเอเชียไปเอาความคิดของชาวตะวันตกมาแบ่งเขตแดน เป็นประเทศออกอย่างชัดเจน และใช้ความรุนแรงจัดการกับผู้รุกล้ำเขตแดน
ทั้งนี้ พื้นที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเชียน เป็นดินแดนที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน หรือที่เรียกว่าดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของดินแดนสุวรรณภูมินี้ มีอารยธรรมที่รุ่งเรือง มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน เป็นสิ่งที่มีคุณค่า รัฐบาลควรดึงจุดแข็งของภูมิภาคอาเซียน เป็นจุดประสานรอยร้าวชายแดน ไทย-กัมพูชา เรียกว่ายุทธศาสตร์ “สุวรรณภูมิ”
ศ.นพ.ประเวศ แนะว่า รัฐบาลควรพูดคุยกันและขอให้ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ซึ่งเป็นเลขาธิการอาเซียนได้ประสานทุกประเทศในภูมิภาค เพื่อร่วมกันจัดระบบเครือข่ายให้คนจากทั่วโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้เข้ามาเที่ยว สัมผัสเรียนรู้ภูมิปัญญาความงดงามของวัฒนธรรมแห่งการอยู่ร่วมที่มีคุณค่าของทุกชาติในภูมิภาคที่เป็นอารยธรรมดั้งเดิม
ไม่มีภูมิภาคใดในโลกจะงดงามเท่าเอเชีย ซึ่งอยู่ร่วมกันด้วยวัฒนธรรมดีงามมาอย่างยาวนาน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางแบบไม่เครียด ต่างจากไปท่องเที่ยวยุโรปที่ต้องคอยกังวลหลายเรื่อง ที่ยึดเรื่องเงินและเขตแบ่งประเทศเป็นที่ตั้ง
ดังนั้น หากทุกประเทศในอาเซียนได้ร่วมกันจัดระบบเครือข่าย “ยุทธศาสตร์สุวรรณภูมิ หรืออาเซียนนี้” เป็นการร่วมกันคิดเรื่องใหญ่ให้สำเร็จ ก็จะเป็นการอยู่ร่วมที่ยั่งยืน ดีกว่าการคิดเล็กแล้วเกิดปัญหาซึ่งกันและกัน