บุรีรัมย์ - เครือข่ายภาค ปชช.บุรีรัมย์ ทั้ง “กลุ่ม ปชช.ไทยหัวใจรักชาติ-พันธมิตรฯ-พลังแผ่นดิน-คนรักแผ่นดินบุรีรัมย์” ลุกฮือ เดินเคลื่อนขบวนแจกใบปลิวปลุกคนบุรีรัมย์ร่วมปกป้องผืนแผ่นดินไทย กดดันกัมพูชาปล่อยตัว 7 คนไทย เรียกร้องรัฐบาลเร่งช่วยเหลือด่วน ย้ำ หากแก้ปัญหาไม่ได้รัฐบาล “อภิสิทธิ์” ต้องออกไป เตรียมร่วมชุมนุมใหญ่ 25 ม.ค.นี้ ที่ กรุงเทพฯ
วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สวนรมย์บุรี เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ตัวแทนเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ประกอบด้วย กลุ่มพลังแผ่นดินบุรีรัมย์ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.บุรีรัมย์ กลุ่มคนรักแผ่นดินบุรีรัมย์ และกลุ่มประชาชนไทยหัวใจรักชาติ จากหลายอำเภอ ใน จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 100 คน นำโดย นางสำเนียง สุภัณภพ แกนนำกลุ่มคนรักแผ่นดินบุรีรัมย์ ได้รวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้คนบุรีรัมย์ และคนไทยออกมาร่วมกันปกป้องผืนแผ่นดินที่ถูกกัมพูชาเข้ามารุกล้ำ พร้อมเรียกร้องให้ทางการกัมพูชา รีบปล่อยตัวคนไทย 7 คน โดยไม่มีข้อแม้ และให้รัฐบาลไทยรีบดำเนินการช่วยเหลือโดยด่วน
จากนั้น ได้พากันออกเดินรณรงค์ พร้อมแจกแผ่นปลิวเชิญชวนประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ ชาวบุรีรัมย์ ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยเฉพาะร้านค้า บ้านเรือน และสถานที่ราชการ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนชาวบุรีรัมย์เป็นอย่างมาก
ข้อความในแผ่นปลิวดังกล่าวมีเนื้อหา ระบุว่า บัดนี้เป็นที่ปรากฎชัดเจนแล้วว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.), นายวีระ สมความคิด เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ พร้อมพวกอีก 5 คน รวม 7 คน ถูกทหารกัมพูชาจับกุมในราชอาณาจักรไทย แล้วนำเข้าไปในราชอาณาจักรกัมพูชา ตั้งข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จ
รัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้พูดเท็จต่อประชาชนตลอดเวลา ว่า ประเทศไทยไม่เสียดินแดนให้กับกัมพูชา แม้แต่ตารางนิ้วเดียว ทั้งที่ผลจากการทำสัญญาหรือสนธิสัญญา นับตั้งแต่ได้มีบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU) ปี 2543 และข้อกำหนดอำนาจหน้าที่และแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างราชอาณาจักรไทย กับราชอาณาจักรกัมพูชา (TOR) ปี 2546
จึงก่อให้เกิดกรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา และบันทึกการประชุม ของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) และบันทึกการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อันเป็นสัญญาหรือสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ผูกพันราชอาณาจักรไทย จำนวนหลายฉบับ ทั้งที่ได้ผ่านมติของที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาแล้ว และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอีกหลายฉบับ
ผลของสัญญาหรือสนธิสัญญาดังกล่าว ทำให้ราชอาณาจักรไทยต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยดินแดนและผลประโยชน์จำนวนมากมายมหาศาลอันประมาณค่ามิได้
รัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ ไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดินให้บรรลุเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์ของชาติได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากมายทั้งทางด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งความรักสามัคคีของคนในชาติ มีการทุจริตอย่างมากมาย
รัฐบาล นายกฯอภิสิทธิ์ หมดความชอบธรรมที่บริหารประเทศอีกต่อไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมกันเป็น พลังแผ่นดิน เพื่ออภิวัฒน์ประเทศไทย “รัฐบาลอภิสิทธิ์ต้องออกไป”
นางสำเนียง สุภัณภพ แกนนำกลุ่มคนรักแผ่นดินบุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณี 7 คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับกุมไป เขาทำเพื่อเราคนไทยในการปกป้องผืนแผ่นดิน จึงขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ นและคนไทย ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพวกเขา ซึ่งหากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาในเรื่องเขตแดนนี้ได้ รัฐบาลนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ควรจะออกไป
“หากทางรัฐบาลไทยไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน พี่น้องชาวบุรีรัมย์พร้อมที่จะร่วมกับประชาชนทั่วประเทศ รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และประชาชนผู้รักชาติหวงแผ่นดินเกิด ในการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 25 ม.ค.นี้” นางสำเนียง กล่าว