ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เด็กไทยสนใจวิทยาศาสตร์ ร่วมค่ายวิทย์สัญจร เปิดโลกวิทยาศาสตร์ “แสงซินโครตรอน” ที่โคราช เผยอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาชาติก้าวหน้า วอน “นายกฯมาร์ค” ส่งเสริมสนับสนุนองค์กร-สถาบันด้านวิทยาศาสตร์ พร้อมจัดสื่อการเรียนการสอนกระตุ้นเด็กไทย ให้หันมาสนใจวิทย์ มากขึ้น โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัดที่ด้อยโอกาสกว่าเด็กเมืองหลวง
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา รศ.ดร.ประยูร ส่งสิริฤทธิกุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) เป็นประธานเปิดกิจกรรมการเสวนา “คุยกัน...ฉันท์วิทย์ สัญจร ครั้งที่ 1” หัวข้อ “เปิดโลกวิทยาศาสตร์กับแสงซินโครตรอน” โดยโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันฯ กับสำนักบริหารกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 ม.ค.นี้ โดยมีเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 150 คน
ทั้งนี้เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยการลงพื้นที่สัมพันธ์กับของจริง และเพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนหันมาสนใจด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น และเพื่อให้มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นสามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาในวิชาเรียนได้ต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ได้นำเด็กและเยาวชนเข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของห้องปฏิบัติการแสงสยาม เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ และสัมผัสเทคโนโลยีแสงซินโครตรอนอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมเดินป่าที่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาต่อไป
นายภานุสรณ์ เจียรสุมัย นักเรียนชั้น ม. 4 โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สนใจวิชาวิทยาศาสตร์มานานแล้วเมื่อมีกิจกรรมเข้าค่ายวิทยาศาสตร์จึงมาเข้าร่วม เพราะเห็นว่าวิทยาศาสตร์จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต ทุกอย่างในโลกนี้เป็นวิทยาศาสตร์เกือบทั้งหมด การเข้าค่ายฯ ครั้งนี้มีความรู้เพิ่มเติมมาก โดยเฉพาะได้รู้ประโยชน์จากแสงซินโครตรอนว่าใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน ซึ่งจะได้นำความรู้ไปต่อยอดในเรื่องอื่นด้วย
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักแสงซินโครตรอนเพราะไม่เคยรู้จักเทคโนโลยีด้านนี้มาก่อนเลย เมื่อได้เรียนรู้จึงทราบว่าแสงซินโครตรอนสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย โตขึ้นอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ หรือวิศวกร เพราะอยากช่วยพัฒนาประเทศไทยต่อไป
นายภานุสรณ์ กล่าวอีกว่า สาเหตุสำคัญที่เยาวชนและนักเรียนในปัจจุบันให้ความสนใจด้านวิทยาศาสตร์น้อยเนื่องจากมีสิ่งกระตุ้นและแรงจูงใจน้อย การเรียนการสอนอาจมีไม่มากพอ จึงทำให้นักเรียนไม่สนใจ ฉะนั้นจึงอยากให้ภาครัฐ โดยเฉพาะรัฐบาลให้ความสนใจในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์เพื่อจะได้กระตุ้นให้เยาวชนได้สนใจเรียนด้านวิทยาศาสตร์
“สำหรับวันเด็กแห่งชาติในปีนี้อยากให้รัฐบาลจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์อย่างทั่วถึงโดยเฉพาะในต่างจังหวัดเพราะเด็กนักเรียนในกรุงเทพฯหรือในเมืองใหญ่จะมีโอกาสมากกว่า และอยากให้เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่หันมาสนใจด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น” นายภานุสรณ์กล่าว
ด้าน ด.ญ.มีฏี ธีรวิวัฒน์วงศ์ หรือ “น้องมีดี้” และ ด.ญ.วิลาสินี คุปต์นิรัติศัยกุล หรือ “น้องเจนเนท” อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป. 5 โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ กรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้ร่วมกิจกรรมกับค่ายวิทยาศาสตร์ของกระทรวงวิทย์ฯ มาโดยตลอดเนื่องจากมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ให้ละเอียดเพิ่มเติมมากขึ้น โดยเฉพาะประโยชน์จากแสงซินโครตรอนทำให้เรารู้ว่าแสงชนิดนี้สามารถวิเคราะห์สิ่งเล็ก ๆ ระดับอะตอมได้ซึ่งเป็นแสงที่น่าสนใจและอยากทำความรู้จักให้มากกว่านี้ และมีประโยชน์ต่อวงการวิทยาศาสตร์ของไทยอย่างมาก
หากมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ จะเล่าเรื่องแสงซินโครตรอนให้ฟังเพื่อจะได้มีความรู้ใหม่ ๆ โดยเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ก่อนเพื่อจะให้เขาสนใจกลายเป็นเรื่องสนุกสนานไม่น่าเบื่อและมีความรู้เพิ่มเติม อนาคตโตขึ้นอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เพื่อจะได้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ให้กับประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่สนุกสนาน ได้ทดลองของใหม่ตลอด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่อยากฝากไปยังรัฐบาลคือ อยากให้ส่งเสริมสนับสนุนค่ายวิทยาศาสตร์ หรือองค์กรที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ โดยการสนับสนุนเรื่องงบประมาณจะเป็นเรื่องดีมาก และในโอกาสวันเด็กแห่งชาติปีนี้ อยากให้นายกรัฐมนตรี ส่งเสริมสนับสนุนองค์กรหรือสถาบันด้านวิทยาศาสตร์ให้อยู่ต่อไปนาน ๆ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เยาวชนต่อไป