xs
xsm
sm
md
lg

รองผู้ว่าฯตรวจน้ำชีหลังระดับน้ำลดขั้นวิกฤต-ชาวมหาสารคามเฉียด 2.5 แสนเดือดร้อนหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มหาสารคาม- คุณภาพน้ำในลำน้ำชีใกล้วิกฤตใกล้ถึงระดับ 4 โดยเฉพาะช่วงไหลผ่านเขตชุมชนเมือง ขณะที่รองผู้ว่าฯ ลงเรือตรวจซ้ำจุดวิกฤตอีกรอบ พร้อมประสานชุมชนและผู้เกี่ยวข้องแก้ปัญหาด่วน ก่อนน้ำเน่าเสีย ขณะที่ภัยแล้งขยายวงกว้าง เดือดร้อน 87,721 ครัวเรือน กระทบ 240,000 กว่าราย

นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย นายสายยนต์ สีหาบัว ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคณะสื่อมวลชนล่องเรือตรวจคุณภาพในลำน้ำชีซ้ำอีกรอบ ในจุดเลี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดคุณภาพน้ำเน่าเสียได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงลำน้ำไหลผ่านเขตชุมชนเมือง

รวมถึงในแหล่งที่มีการตั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของราษฎรติดลำน้ำชี บริเวณที่มีการเลี้ยงปลากระชัง และโรงงานอุตสาหกรรมดูดทราย พบปัญหาคุณภาพน้ำในลำน้ำชีใกล้วิกฤต และเน่าเสีย จากการตรวจวัดคุณภาพน้ำอยู่ในระดับ 3 อยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ แต่ไม่เหมาะจะใช้เพื่อการนันทนาการทางน้ำ และการอุปโภคบริโภค เนื่องจากมีความสกปรก ความขุ่นข้นในระดับที่สูง

โดยสาเหตุที่ทำให้คุณภาพของน้ำในแม่น้ำชีใกล้วิกฤตเน่าเสีย เกิดจากชุมชนเมืองปล่อยน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำ โดยเฉพาะบางพื้นที่ในเขตเทศบาลตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย รวมถึงมีชาวบ้านบางรายลักลอบนำขยะมาทิ้งลงในแม่น้ำ นอกจากนี้ การดูดทรายก็มีผลทำให้น้ำเกิดการขุ่นข้นมากยิ่งขึ้น และทำให้ระดับค่าออกซิเจนละลายน้ำลดลง เนื่องจากน้ำมีตะกอนมาก ซึ่งจะส่งผลโดยตรงกับสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในน้ำ แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่จะผลกระทบโดยตรงกับคุณภาพน้ำ

อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้สั่งการให้หน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน ด้วยการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงแม่น้ำ ให้ผู้นำชุมชนกำกับดูแลไม่ให้ลูกบ้านทิ้งขยะลงแม่น้ำ และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมดูดทรายรายใดที่ก่อให้เกิดผลกระทบหากไม่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ ก็จะไม่ต่อใบอนุญาตให้

ขณะที่สภาพทั่วไป ภัยแล้งได้ขยายวงกว้างครอบคลุมไปทุกพื้นที่ จังหวัดจึงได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งไปแล้ว 5 อำเภอ คือ อำเภอเมืองมหาสารคาม บรบือ โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และอำเภอกุดรัง รวม 63 ตำบล 825 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 87,721 ครัวเรือน จำนวน 240,000 กว่าราย ส่วนใหญ่ขาดแคลนน้ำเพื่อ อุปโภค บริโภค นอกจากนี้ ผลกระทบจากภัยแล้งยังครอบคลุมถึงวัด พระสงฆ์ตามวัดต่างๆ กว่า 200 แห่งก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

โดยเฉพาะที่วัดบ้านหนองบัวแก้ว ต.หนองบัวแก้ว อ.พยัฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม พระสงฆ์ในวัดขาดแคลนน้ำดื่ม ถังน้ำขนาดใหญ่ในวัด ไม่มีน้ำไว้บริโภค จึงได้ให้ผู้ใหญ่บ้านประสานกับ อบต.หนองบัวแก้ว ขอน้ำดื่ม ซึ่งทาง อบต.ได้ให้การช่วยเหลือโดยได้ซื้อน้ำดื่มมาแจกจ่ายให้ทางวัด เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว

นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ประสานความร่วมมือไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่ง ให้นำน้ำอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยเริ่มจากวัดที่ประสบปัญหาหนักเป็นลำดับแรก นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังเจ้าคณะอำเภอ และตำบล เพื่อให้ช่วยแจ้งข้อมูลข่าวสารถึงปัญหาความเดือดร้อน เพื่อจะได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือพระสงฆ์ที่วัดต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น