ระนอง-แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งทหารทุกหน่วยที่ค่ายรัตนรังสรรค์ จังหวัดระนอง สกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวชาวพม่าอย่างเข้มงวด ระบุหากยังไม่มีมาตรการควบคุมในอนาคตจะถูกพม่ายึดเมืองแน่นอน โดยเฉพาะหากเอกชนยังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ส่วนการลักลอบเข้าเมืองของโรฮิงญา ปีนี้ลดลง เหตุชาวบ้านช่วยแจ้งข่าวความเคลื่อนไหว
วันที่ 13 ก.พ.พลโทพิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนของทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 และ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนแยก 1 ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์จังหวัดระนอง ถึงสถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ว่า พื้นที่จังหวัดระนองน่าเป็นห่วง
ในระยะยาวหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ร่วมมือกัน จะถูกแรงงานต่างด้าวยึดเมืองอย่างแน่นอน แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร ซึ่งช่วงแรกอาจจะไม่คิดอะไรกัน สาเหตุเกิดจากความใจดีของเรา นึกถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวที่จะได้ ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา จะเห็นได้ว่า เริ่มแรกมีการรวมกลุ่มของแรงงานต่างด้าวมากขึ้น มีการจัดหาพระมาเทศน์ จัดคอนเสิร์ตพม่าให้ดู ไม่ทราบว่าอนุญาตกันได้อย่างไร
การทำงานมีปัญหามาก ต้องมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ต้องช่วยกันสกัดกั้นตามแนวชายแดน ส่วนเรื่องการอพยพของชาวโรฮิงญา ปีนี้ถือว่าไม่น่าห่วง เพราะเจ้าหน้าที่ได้เอาจริงเอาจังในการเฝ้าระวังป้องกัน ตรวจตราอย่างเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องของทรัพยากรป่าไม้ ต้องเอาประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมป้องกัน ฟื้นฟู และอนุรักษ์ให้คงอยู่ ซึ่ง กอ.รมน.แต่ละจังหวัดทำดีอยู่แล้ว
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้มีการดูดทรายในทะเลอันดามัน เขตจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนจังหวัดระนองมาก นั้น กองทัพภาคที่ 4 ต้องหารือไปยังหน่วยเหนือขึ้นไป เพื่อประสานหารือนวทางแก้ไขปัญหาในระดับประเทศต่อไป
จากนั้นคณะของแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพบปะสมาชิกเครือข่ายภาคประชาชน ตาสับปะรดจังหวัดระนอง หรือวิทยุเครื่องแดงแจ้งเหตุ ที่เทศบาลตำบลบางริ้น ซึ่งเป็นเครือข่ายวิทยุสื่อสารภาคประชาชนที่กองทัพภาคที่ 4 ให้การสนับสนุนช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ในการแจ้งเหตุต่าง ๆ ตามแนวชายแดน เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ.
