อุดรธานี- 4 อำเภอในอุดรฯประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดในไร่มันสำปะหลังอย่างหนัก รวมพื้นที่เสียหายกว่า 4 หมื่นไร่ แนะเกษตรกรหมั่นตรวจแปลงทุก 7 วัน พบเพลี้ยให้เด็ดยอดทำลายทิ้ง หากระบาดมากใช้สารเคมีพ่น พร้อมกับย้ำเพาะปลูกฤดูหน้าให้แช่ท่อนมันกับสารเคมีไทอะมีโทแซม 25%WG นาน 10 วันก่อนลงดิน
นายสุทธิชัย ยุทธเกษมสันต์ เกษตร จ.อุดรธานี เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง จ.อุดรธานี ว่า ขณะนี้มีการระบาดอย่างหนักใน 4 อำเภอ พื้นที่ 42,394 ไร่ ประกอบด้วย อ.ศรีธาตุ 23,261 ไร่ อ.วังสามหมอ 16,919 ไร่ อ.โนนสะอาด 1,610 ไร่ และ อ.กุมภวาปี 604 ไร่ ผลการดำเนินการจัดการเพลี้ยแป้งเบื้องต้นทาง อบต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ ได้อบรมเกษตรกร และสนับสนุนสารเคมีไทอะมีโทแซมและไวท์ออยล์ จำนวน 40,000 บาท
อ.ศรีธาตุ ได้สนับสนุนสารเคมีไทอะมีโทแซม 25%WG และไวท์ออยล์ จำนวน 980,200 บาท อ.วังสามหมอ ได้ให้ความรู้เกษตรกรและประสานไปยัง อบต.ให้สนับสนุนสารเคมี และให้คณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย หรือ กชภ.อ.วังสามหมอ ให้การสนับสนุนสารเคมีในส่วนที่ อบต.ไม่ได้ให้การช่วยเหลือ
นายสุทธิชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของสำนักงานเกษตร จ.อุดรธานี ได้มีการรณรงค์การชุบท่อนพันธุ์มันสำปะหลังก่อนปลูก พื้นที่ 1,500 ไร่ ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีธาตุ, โนนสะอาด, หนองวัวซอ, บ้านผือ และ น้ำโสม มีการถ่ายทอดความรู้การจัดการเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง หลังดำเนินการไปแล้ว 5 อำเภอ 30 คน รวม 150 คน จัดทำแปลงสำรวจสถานการณ์เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง ดำเนินการ 5 แปลงใน 5 อำเภอ
การตั้งศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน 5 ศูนย์ คือ ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน ต.นางัว อ.น้ำโสม, ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ, ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน ต.ทมนางาม อ.โนนสะอาด, ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ และศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ
โดยผลิตแมลงช้างปีกใส ซึ่งเป็นห้ำชนิดหนึ่ง ตัวอ่อนแมลงช้างปีกใสจะอาศํยเพลี้ยแป้งเป็นอาหาร อัตราการปล่อย 5,000 ตัวต่อไร่ ตัวอ่อนแมลงช้างปีกใส 1 ตัว สามารถกินเพลี้ยแป้งได้ 150 ตัว ตลอดอายุ 10 วัน และมีการติดตามประเมินผล โดยให้เกษตรอำเภอและนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการที่รับผิดชอบตำบลได้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทางจังหวัดทราบทุกวัน
จึงขอความร่วมมือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ต้องตรวจสอบแปลงปลูกมันสำปะหลังทุกๆ 7 วัน หากพบการระบาดให้เด็ดยอดมันสำปะหลังแล้วนำไปทำลาย ถ้าพบเพลี้ยแป้งมีปริมาณมากให้เด็ดยอดแล้วฉีดพ่นสารเคมีไทอะมิโมแซม 25%WG อัตราส่วน 8 กรัม ผสมไวท์ออยล์ 67%EC 200 ซีซี.กับน้ำ 80 ลิตรต่อพื้นที่ 1 ไร่ ฉีดพ่นห่างกัน 7 วัน ต้องฉีด 2 ครั้ง
นอกจากนี้ หากจะปลูกมันสำปะหลังครั้งต่อไปต้องแช่ท่อนพันธุ์มันสำปะหลัง และเตรียมวัสดุภาชนะสำหรับแช่ คือ ถุงตาข่ายไนล่อน หรือ ตะแกรงเหล็ก สารเคมีไทอะมีโทแซม 25%WG อัตรา 4 กรัม 20 ลิตร เวลาแช่นาน 10 วันแล้วนำไปปลูก และจะต้องมีการฉีดพ่นสารเคมีทุกครั้งก่อนการเคลื่อนย้ายท่อนพันธุ์
