ฮือฮาพบน้ำผุดกลางป่าดงระแนงกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์-ชาวบ้านจากทั่วสารทิศกว่า สองพันคนแห่กินน้ำศักดิ์กลางป่าดงระแนง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เชื่อเป็นน้ำอมฤต รักษาสารพัดโรค พิสูจน์ผู้เฒ่าวัย 83 ป่วยเบาหวานเดินและพูดไม่ได้กว่า 2 ปี กินน้ำไป 3 วันพูดได้เดินได้อย่างคล่องแคล่ว

วันนี้( 11 ม.ค.)เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพิสูจน์ข้อเท็จจริง หลังได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปดื่มกินน้ำศักดิ์สิทธิ์ บริเวณพื้นที่ป่าสงวนดงระแนงฝั่งตอนท้าย ที่จุดหนองน้ำสาธารณะหนองบักควร บ้านนางาม ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งทันทีที่เดินทางไปถึงจุดบ่อน้ำศักดิ์ได้พบกับคลื่นมหาชนจำนวนมากกว่า สองพันคน เนื่องแน่นอยู่เต็มบริเวณ โดยส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ ที่มีการกางเต็นท์ตั้งโต๊ะหมู่บูชารองรับให้ประชาชนร่วมทำบุญกัน

สำหรับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พบ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำคล้ายกับน้ำผุดขนาดกว้างยาวประมาณ 1 เมตรและมีน้ำผุดออกจากรูอยู่ตลอดเวลา ซึ่งน้ำที่ผุดออกมาจากใต้ดินมีความใสมาก ไม่มีตะกอนขุ่นเหมือนกับน้ำบ่อน้ำบาดาลที่พบทั่ว ๆ ไป ส่วนรสชาติของน้ำ มีความเปรี้ยวนิด ๆ ที่ตลอดเวลามีชาวบ้านแวะเวียนเข้าไป ตักน้ำทั้งใส่ขวดพลาสติกใส่แท๊งค์น้ำและนำมาอาบมาล้างหน้าจำนวนมาก

ขณะที่ตำนานการพบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ยังมีความอัศจรรย์ยิ่งนักเนื่องจากชาวบ้านที่พบคนแรก ได้ยินเสียงคนเรียกให้มาเปิดน้ำถึงสามครั้ง กระทั่งมาพบว่ามีน้ำผุดขึ้นมาจากใต้ดินจึงได้วิ่งมาบอกชาวบ้านในหมู่บ้านและร่วมกันทำพิธีตามความเชื่อ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าไปบูชาตามศรัทธา ที่มีคนป่วยกินดื่มน้ำเข้าไปแล้วหายจริงจนมารร่ำลือกันไปทั่ว

นายทวี ศรีนคร อายุ 53 ปีอยู่บ้านเลขที่ 169 ม. 6 บ.นางาม ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนที่พบน้ำผุดอันศักดิ์นี้ แต่ก่อนที่พบตนเองได้เจอสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นในชีวิตคือเมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 52 คาบเกี่ยวกับวันขึ้นปีใหม่ได้ยินเสียงเหมือนคล้ายว่าเป็นผู้หญิงกระโตนเรียกให้ตนเองไปเปิดน้ำให้หน่อย โดยบกว่า เปิดน้ำให้หน่อย ร้องอยู่ประมาณ สามครั้ง ก็หายเงียบไป จนกระทั่งตื่นเช้ามาถามใครก็ไม่มีใครไปเรียก

ตนเองก็ไปเที่ยวสนุกสนานเฮฮาตามประสาในวันขึ้นปีใหม่จนตกเย็นของวันที่ 1 ม.ค. 53 ได้ไปวิ่งออกกำลังกายที่บริเวณหนองน้ำสาธารณะหนองบักควรที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ก็เกิดเอะใจเพราะได้ยินเสียงดังมาจากท้ายป่าดงระแนงดังปุง ๆ อยู่ จึงได้เดินเข้าไปแวกกองใบไม้ทันที่ทีเปิดขึ้นมาก็มีน้ำพุ่งมาอย่างแรงตนเองด้วยความตกใจ จึงวิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้านไปบอกกับชาวบ้านให้ช่วยมาดู

“ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงนึกทบทวนไปและคิดว่าเป็นน้ำที่ไม่ธรรมดา จึงได้นำเอาคนแก่ในหมู่บ้านมาลองอาบและดื่มน้ำนี้ดู ปรากฎว่าคนที่ป่วยเดินไม่ได้กว่าสองปีกลับเดินได้อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน จึงได้ทำพิธีและขอพรให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านดังกล่าว”

ด้านนายคำผาย ภูจอมแก้ว อายุ 67 ปี กล่าวว่า ได้มากินน้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาแปดวันแล้ว โดยวันแรกที่กินรู้สึกว่าอยากจะลุกขึ้นเดินอยากกินข้าวปลาอาหารต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นตนเองได้ป่วยเป็นโรคเบาหวานมานาน จนเมื่อสองปีที่แล้วได้ป่วยหนักลุกเดินไม่ได้ พูดไม่ได้นอนอยู่กับบ้านเฉย ๆ แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นกับตน เพราะเมื่อกินน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวันที่สามตนเองกับลุกเดินได้อย่างน่าอัศจรรย์ และได้มาบูชาน้ำในบ่อมากินมาอาบตลอดระยะเวลาแปดวัน

ขณะที่ นายเคน แห่กระสินธุ์ อายุ 83 ปี พ่อแก่ที่ดูแลบ่อน้ำกล่าวว่า ทางชาวบ้านได้ตั้งให้ตนเองมาดูแลจัดระบบการบูชาน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ซึ่งในแต่ละวันมีประชาชนเดินทางมาจำนวนมาก โดยเฉพาะในวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดต่าง ๆ มีคนมากว่า 3,000 คนทีเดียว ซึ่งทุกคนที่มามีแต่คนป่วยแต่เมื่อกินน้ำที่นี่แล้วกลับสบายตัวแทบจะหายป่วยเป็นปลิดทิ้ง

“สำหรับเงินที่มีคนมาทำบุญทางชาวบ้านที่นี่ไม่ได้ออกกฎ หรือกำหนดว่าจะต้องช่วยทำบุญเท่าไหร่เอาน้ำเท่าไหร่ แต่คนที่มาเพียงแต่จะต้องช่วยกันดูแลอย่าลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านเชื่อถือกันอยู่โยเฉพาะผู้หญิงต้องอยู่ในบริเวณที่กำหนด เพราะน้ำที่นี่ชาวบ้านเชื่อเป็นบ่อน้ำอมฤต เป็นบ่อน้ำที่พญานาคให้มาไว้รักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่ประชาชนทั่วไป ส่วนเงินที่ร่วมกันทำบุญนั้นจะเก็บไว้สร้างศาลาวัดบ้านสว่างวารี ซึ่งเป็นวัดในหมู่บ้านที่นี่”