กาฬสินธุ์- ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ จับกุมเอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 4,000 เม็ด สารภาพนำยาบ้าข้ามมาจากฝั่งลาวพื้นที่อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อส่งต่อเอเย่นต์ในพื้นที่กำไรเที่ยวละ 100,000 บาท อ้างหาเงินเลี้ยงครอบครัวและพ่อที่ป่วยด้วยอาการป่วยทางจิตและแม่ที่ตาบอด
วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 09.30 น.ที่ห้องปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ตร.ภ.จ.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.ท.ประยุทธ อรัญโชติ หัวชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นำตัวนายประยงค์ ไชยสุข หรือตุ๊ อายุ 31 ปี เอเยนต์ยาบ้าพร้อมของกลาง 4,000 เม็ด
โดยในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการจับกุมที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 10 ต.คำบง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ หลังจากการสืบทราบจากสายลับทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ยึดของกลางทั้งสมุดเงินฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาสมเด็จ มียอดเงินฝากเป็นเงิน 102,561 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงินเทา หมายเลขทะเบียน กรร 444 กาฬสินธุ์ รถยนต์อีซูซุสีเทา หมายเลขทะเบียน บธ 9790 กาฬสินธุ์ พร้อมโฉนดที่ดินบ้านพร้อมที่ดินมูลค่า 1,200,000 บาทไว้
นายประยงค์ ไชยสุข หรือ ตุ๊ กล่าวว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่เป็นคนทางฝั่งลาว เพราะเห็นว่าตนทำงานหลายอย่างแต่เงินได้ไม่มาก ทั้งการขายของ ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ทำร้านอาหารก็เพียงประคับประครองชีวิตไปวันๆ ที่ตนเองก็เห็นว่าเป็นเรื่องน่าเสี่ยงเพราะต้องเลี้ยงดูครอบครัว เพราะตนเองมีลูกสาว 1 คนอายุได้ 10 ขวบแล้ว อีกทั้งภรรยาก็กำลังตั้งท้อง
นอกจากนี้ พ่อก็ป่วยเป็นโรคทางจิต แม่ก็ตาบอด จึงต้องการหาเงินมาเลี้ยงดูคนในครอบครัวหวังเพียงเพื่อให้อยู่สุขสบายเท่านั้น ซึ่งตั้งใจว่าพอเก็บเงินได้สักก้อนหนึ่งก็จะเลิกทำแต่ก็มาโดนตำรวจจับเสียก่อน
“ในการซื้อขายยาบ้ากับเพื่อนทางฝั่งลาว จะมีการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อนสาวก่อนที่จะนัดแนะสถานที่รับส่งยากับนายพล ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ในพื้นที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หลังจากรับยาบ้ามาแล้วก็จะนำมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านพักเพื่อรอจำหน่าย ที่จะจำหน่ายครั้งละ 2,000 เม็ด โดยมีนายเพ็ง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง มาซื้ออีกต่อหนึ่งโดยจะซื้อขายกับตนเองจะได้กำไรครั้งละ 100,000 บาท”
ด้าน พ.ต.ท.ประยุทธ อรัญโชติ หน.ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับนายประยงค์ หรือตุ๊ ผู้ต้องหายาบ้ารายนี้นั้นมีพฤติกรรมในการรับส่งยาบ้าโดยไปรับยาบ้าจากเพื่อนที่อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ในราคามัดละ 200,000 บาท 1 มัด มี 2,000 เม็ด รับมาครั้งละ 2 มัด หรือประมาณ 4,000 เม็ด
จากนั้นจะนำยามาส่งให้กับเอเยนต์รายหนึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยส่งยาบ้าในราคาเม็ดละ 250,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาได้ทำมาประมาณ 12 ครั้งแล้ว มีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาททีเดียว ซึ่งในการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้วางสายลับ และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มานานกว่า 3 เดือน และได้ทำแผนล่อซื้อปลีกกับผู้ต้องหา
จนผู้ต้องหาตกหลุมพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีการนัดส่งยาภายในบ้านพักผู้ต้องเอง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมากได้
พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ขณะนี้กำลังมีปัญหากรแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างหนัก ที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้เสพมากกว่าผู้ค้า หรือผู้ค้าก็เป็นรายย่อย ซึ่งการจับกุมครั้งนี้นับเป็นการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่
ทั้งนี้ จากนโยบายจังหวัดที่กำชับให้กวาดล้างอย่างเข้มข้นนั้น ทางตำรวจจะเน้นกวาดล้างผู้ค้าบำบัดผู้เสพเป็นหลัก
