ทหารเชียงรายส่งกำลังช่วยเหยื่อพายุฤดูร้อน/หลังทำบ้านเรือนพังนับร้อย

เชียงราย – กรมทหารราบที่ 17 ในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เร่งส่งกำลังพลช่วยเหยื่อพายุฤดูร้อนเชียงราย หลังพัดกระหน่ำบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายนับร้อยหลังคาเรือน

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า แม้พายุฤดูร้อนหลายพื้นที่ในเชียงราย ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักช่วงคืนวันที่ 18-19 มี.ค.53 ที่ผ่านมา จะช่วยให้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ทุเลาลงบ้าง ขณะเดียวกันกลับสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชนด้วย โดยเฉพาะในเขต ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน พบว่าพายุได้ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างกว่า 100 หลังคาเรือนโดยเฉพาะในเขตหมู่ 3 ต.ศรีค้ำ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ได้รับความเสียหายเล็กน้อย เช่น หลังคาบิ่น ปลิวไปบางส่วน ฝาบ้านเสียรูปทรงและอื่นๆ

อย่างไรก็ตามพบว่าที่บ้านเลขที่ 74/1 หมู่ 3 ต.ศรีค้ำ ซึ่งมีนางโสภิณ จินดาธรรม ราษฎรในหมู่ 3 เป็นเจ้าของพบว่าได้รับความเสียหายทั้งหลัง เพราะบ้านตั้งอยู่ติดกับกอไผ่ขนาดใหญ่ ที่ถูกพายุลมพัดแรงจนล้มลงทั้งกอทับใส่ตัวบ้าน จนได้รับความเสียหายทั้งหมด

หลังเกิดเหตุนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้ประสานกับนายอำเภอแม่จันให้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

ขณะเดียวกันทางด้าน พ.ท.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผบ.กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 17 ในพระองค์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ) ค่ายเม็งรายมหาราช ได้นำทหารกว่า 100 นาย พร้อมเครื่องมือช่างเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ ต.ศรีค้ำ โดยได้ช่วยซ่อมแซมบ้านเรือน ตัดเก็บไม้หรือวัชพืชออกจากบ้านเรือ ช่วยเก็บข้าวของ ฯลฯ จนทำให้ชาวบ้านรู้สึกปราบปลื้มใจในมิตรไมตรีของเหล่าทหารอย่างมาก

ส่วนที่พะเยาพายุฝนระลอกนี้ ได้ช่วยบรรเทาสถานการณ์ร้อนแล้งไปได้บ้างโดยนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เปิดเผยถึงสถานการณ์การภัยแล้งในจังหวัดพะเยาว่า ล่าสุดมีประชาชนได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งแล้ว ทั้งผลกระทบด้านพืชผลทางการเกษตรกรโดยเฉพาะข้าวนาปรังที่มีการปลูกมากกว่า 90,000 ไร่ ในปีนี้ ส่งผลให้น้ำไม่เพียงพอล่อเลี้ยงต้นข้าว ทำให้ก่อนหน้านี้มีข้าวบางส่วนยืนต้นตาย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งชลประทานพะเยา และเกษตรกรจังหวัด เร่งให้ให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการแล้ว ส่วนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ได้สั่งการให้ อปท.ทุกแห่งเร่งแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนแล้วเช่นกัน

นอกจากนี้ กว๊านพะเยาซึ่งเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัด ก็ได้มีการปล่อยน้ำให้แก่เกษตรกรเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในหลายอำเภอ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำก็ลดลงเหลือประมาณไม่เกินร้อยละ 50 เท่านั้นอย่างไรก็ ตามเมื่อคืนหลังมีฝนตกลงมาซึ่งก็สามารถบรรเทาความแห้งแล้งได้บางโดยเฉพาะข้าวนาปรังของเกษตรกร