สกลนคร- ผรท.สกลนคร รวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัด เรียกร้องเงินชดเชย ตามนโยบาย 66/23 กรณีสร้างเขื่อนน้ำอูน เผยนานกว่า 40 ปี ไม่มีอะไรดีขึ้น ระบุ ไม่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เกรงว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนเสื้อแดง
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (16 มี.ค.) นายทองดี ตุพิลา อดีตแกนนำผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย พร้อมด้วย นายเหลาไท นิลนวล อดีตแกนนำสมัชชาคนจนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำชาวบ้านประมาณ 30 คน เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร เพื่อเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ขอทราบถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนน้ำอูน โดยได้จัดส่งรายชื่อให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาเป็นเวลาสมควรแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ตามที่ฝายเลขา สำนักงานจัดหาที่ดิน 5 อุดรธานี เคยรับปากต่อที่ประชุมหลายครั้ง
ดังนั้น พวกตนจึงขอให้เร่งรัดติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบรายชื่อจากสำนักงานจัดหาที่ดิน 5 จังหวัดอุดรธานี และให้ส่งข้อมูลข่าวสารให้ราษฎรและคณะทำงานทราบด้วย นอกจากนี้ยังขอให้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าและกำหนดกรอบเวลาในการทำงานที่ชัดเจนด้วย
นายเหลาไท กล่าวว่า ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนมาตั้งแต่ พ.ศ.2510 เป็นเวลา 40 กว่าปีมาแล้ว ที่ผ่านมาการแก้ปัญหานั้นชาวบ้านยืนยันว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการพิจารณาแล้ว 2-3 รอบ ซึ่งมติเดิมที่รัฐบาลจะให้คือครอบครัวละ 15 ไร่ แต่ 40 กว่าปีมาแล้วยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้เลย กว่า 4 พันครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ในช่วงปี 2547 ก็มีมติ ครม.ให้จ่ายเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษไร่ละ 1 หมื่นบาท ก็ตกครอบครัวละ 150,000 บาท ซึ่งไม่สามารถจัดหาที่ดินได้ เพราะราคาที่ดินในพื้นที่อย่างต่ำไร่ละ 3-5 หมื่นบาท
ทั้งนี้ พบว่า มีรายชื่อตกหล่นอีก 2,474 ราย จึงอยากให้รัฐบาลจัดหาที่ดินครอบครัวละ 15 ไร่ หรือจ่ายเงินชดเชยให้เหมือนกับเขื่อนอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลเคยรับปากไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วแต่ก็เลื่อนมาเป็นเดือนที่สามแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ที่สำคัญ พวกตนจะไม่เดินไปกรุงเทพฯ และพบว่า มีแกนนำเสื้อแดงในพื้นที่เข้าไปชักชวนชาวบ้านในพื้นที่เหมือนกัน โดยบอกว่าให้ไปร่วมการเคลื่อนไหวในทางการเมือง ในช่วงวันที่ 12 มีนาคมนี้ พวกเราอยากให้ภาครัฐ มองว่าเดินทางมาวันนี้ เรียกร้องในการแก้ไขปัญหาเขื่อนน้ำอูนเท่านั้น
ต่อมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหาที่ดิน 5 จังหวัดอุดรธานี ได้เชิญกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนน้ำอูนเข้าห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสกลนคร และชี้แจงว่า ในวันที่ 11 มีนาคม นี้ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานกรรมาธิการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปขอรับทราบความก้าวหน้า
ในส่วนของสำนักงานจัดหาที่ดิน 5 จังหวัดอุดรธานี ได้แจ้งรายชื่อเพิ่มเติมเรื่อยๆ จึงยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งในการทำงานนั้นจะนำรายชื่อทั้งหมด จำนวน 1,732 ราย เข้าไปรวมกับ3,331 แล้วจับคู่กัน เนื่องจากราษฎรยังตกหล่น จึงไม่สามารถเร่งรัดดำเนินการได้
นอกจากนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติและรายชื่อ จึงไม่สามารถเร่งรัดดำเนินการได้ กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจเดินทางกลับ เวลา 12.00 น.
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (16 มี.ค.) นายทองดี ตุพิลา อดีตแกนนำผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย พร้อมด้วย นายเหลาไท นิลนวล อดีตแกนนำสมัชชาคนจนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำชาวบ้านประมาณ 30 คน เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร เพื่อเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ขอทราบถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนน้ำอูน โดยได้จัดส่งรายชื่อให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาเป็นเวลาสมควรแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ตามที่ฝายเลขา สำนักงานจัดหาที่ดิน 5 อุดรธานี เคยรับปากต่อที่ประชุมหลายครั้ง
ดังนั้น พวกตนจึงขอให้เร่งรัดติดตามความคืบหน้าในการตรวจสอบรายชื่อจากสำนักงานจัดหาที่ดิน 5 จังหวัดอุดรธานี และให้ส่งข้อมูลข่าวสารให้ราษฎรและคณะทำงานทราบด้วย นอกจากนี้ยังขอให้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าและกำหนดกรอบเวลาในการทำงานที่ชัดเจนด้วย
นายเหลาไท กล่าวว่า ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนมาตั้งแต่ พ.ศ.2510 เป็นเวลา 40 กว่าปีมาแล้ว ที่ผ่านมาการแก้ปัญหานั้นชาวบ้านยืนยันว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม มีการพิจารณาแล้ว 2-3 รอบ ซึ่งมติเดิมที่รัฐบาลจะให้คือครอบครัวละ 15 ไร่ แต่ 40 กว่าปีมาแล้วยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณให้เลย กว่า 4 พันครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ในช่วงปี 2547 ก็มีมติ ครม.ให้จ่ายเงินชดเชยเป็นกรณีพิเศษไร่ละ 1 หมื่นบาท ก็ตกครอบครัวละ 150,000 บาท ซึ่งไม่สามารถจัดหาที่ดินได้ เพราะราคาที่ดินในพื้นที่อย่างต่ำไร่ละ 3-5 หมื่นบาท
ทั้งนี้ พบว่า มีรายชื่อตกหล่นอีก 2,474 ราย จึงอยากให้รัฐบาลจัดหาที่ดินครอบครัวละ 15 ไร่ หรือจ่ายเงินชดเชยให้เหมือนกับเขื่อนอื่นๆ ซึ่งรัฐบาลเคยรับปากไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่แล้วแต่ก็เลื่อนมาเป็นเดือนที่สามแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ที่สำคัญ พวกตนจะไม่เดินไปกรุงเทพฯ และพบว่า มีแกนนำเสื้อแดงในพื้นที่เข้าไปชักชวนชาวบ้านในพื้นที่เหมือนกัน โดยบอกว่าให้ไปร่วมการเคลื่อนไหวในทางการเมือง ในช่วงวันที่ 12 มีนาคมนี้ พวกเราอยากให้ภาครัฐ มองว่าเดินทางมาวันนี้ เรียกร้องในการแก้ไขปัญหาเขื่อนน้ำอูนเท่านั้น
ต่อมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานจัดหาที่ดิน 5 จังหวัดอุดรธานี ได้เชิญกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างเขื่อนน้ำอูนเข้าห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสกลนคร และชี้แจงว่า ในวันที่ 11 มีนาคม นี้ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานกรรมาธิการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องไปขอรับทราบความก้าวหน้า
ในส่วนของสำนักงานจัดหาที่ดิน 5 จังหวัดอุดรธานี ได้แจ้งรายชื่อเพิ่มเติมเรื่อยๆ จึงยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งในการทำงานนั้นจะนำรายชื่อทั้งหมด จำนวน 1,732 ราย เข้าไปรวมกับ3,331 แล้วจับคู่กัน เนื่องจากราษฎรยังตกหล่น จึงไม่สามารถเร่งรัดดำเนินการได้
นอกจากนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบประวัติและรายชื่อ จึงไม่สามารถเร่งรัดดำเนินการได้ กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจเดินทางกลับ เวลา 12.00 น.