สกลนคร - เผยปริมาณระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปีที่ผ่านมามาก โดยอยู่ที่ 47 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ปีที่แล้วมีน้ำ 70 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ 2 เขื่อนใหญ่ปริมาณน้ำน้อยมาก เร่งประชาสัมพันธ์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัด
นายวิชาญ แท่นหิน รักษาการณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สกลนคร กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในเขื่อนน้ำอูน ซึ่งมีปริมาณกักเก็บ 520 ล้านลูกบาศก์เมตร มีความจุแค่ 199 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 38 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ปีที่แล้วมีน้ำ 73 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีกเขื่อนคือเขื่อนนำพุง ความจุเต็มที่ 165 ล้านลูกบาศก์เมตร กลับเหลือเพียง 66 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์
โดยในภาพรวมแหล่งนำทั้งหมด 33 แห่ง มีน้ำเพียงแค่ 47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะมีปริมาณน้ำฝน 1,100-1,600 มิลลิลิตรต่อปี แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาปรากฏว่าปริมาณน้ำฝนมีน้อยมีเพียง 1,200 มิลลิลิตรเศษๆ เท่านั้น ปรากฏการณ์ที่ผ่านมานั้นทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำที่เก็บกักน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในห้วงเวลาเดียวกันแล้ว จะมีปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ถึง 70.32 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็นปรากฏการณ์ให้ทราบแล้วว่าในห้วงเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าดังนั้นพี่น้องชาวจังหวัดสกลนครทั้ง 18 อำเภอคงจะต้องประสบกับภาวะปัญหาภัยแล้ง
ดังนั้น กองอำนวยการและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนคร โดยนายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร จึงสั่งการให้บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนครเป็นหน่วยเลขา ซึ่งจะตั้งหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมาซึ่งจะเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยประสานทุกสิ่งในการที่จะทำอย่างไรในการสำรวจตรวจสอบเครื่องมือทุกสิ่งทุกอย่างในการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนในเบื้องต้นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเฉพาะหน้า
นอกจากนี้ ได้มีการประสานไปยังอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในหลายๆ อำเภอในการจัดทำฝายและแฝก ซึ่งกำลังคิดหาชื่อกันอยู่ซึ่งชื่อในเบื้องต้นก็คือ ฝายและแฝกของพ่อ ก่อสุขสามัคคี ตามรอยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งอำเภอกุสุมาลย์จะเป็นอำเภอเริ่มต้นซึ่งใช้ชื่อว่ากุสุมาลย์โมเด็ม เนื่องจากว่าเราได้มีการประสานไปยังหลายภาคส่วน ชาวบ้านก็มีส่วนร่วมต้นทุนก็ถูกประมาณ 20,000-30,000 บาท ไม่เกิน 50,000 บาท เราก็ได้ฝายกั้นน้ำเอาไว้ใช้ในฤดูแล้ง
โดยใช้หลัก 3 ก.คือ กั้น เก็บ กัก เอาไว้ ฉะนั้นในการลงพื้นที่ในครั้งนี้เราสามารถเก็บกักน้ำเอาไว้ใช้ได้ ในฤดูแล้ง มีผลต่อวัว ควาย เป็ด ไก่ ได้กิน และได้แจ้งเตือนประชาสัมพนธ์ให้ใช้น้ำอย่างประหยัดต่อไป และอีกอย่างหนึ่งของวิถีทางแก้คือขอฝนหลวงมาทำในพื้นที่
