ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ตำรวจภาค 5 ตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มเสื้อแดงใกล้ชิด ทหาร-ฝ่ายปกครอง ร่วมประชุมรายงานข้อมูลทุกวัน เผยตั้ง 168 ด่าน ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรองตรวจเข้ม ป้องกันการพกพาอาวุธ ขณะที่สถานที่ราชการในพื้นที่เชียงใหม่ทุกแห่งวางกำลังเจ้าหน้าที่คุมเข้มสกัดมือที่สามฉวยโอกาสก่อความไม่สงบ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า เวลานี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์ประสานงานในการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรทุกแห่งเป็นประจำทุกวันเพื่อรายงานและสรุปข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองเข้าร่วมประชุมด้วย
พ.ต.อ.เขมรินทร์ หัสศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากข้อมูลทางการข่าวของตำรวจ ระบุว่า จะมีกลุ่มมวลชนจากพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 เข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ประมาณ 30,000 คน ใช้รถยนต์ในการเดินทางประมาณ 1,000 คัน โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่มีประมาณ 5,000-10,000 คน อย่างไรก็ตามจะมีการสรุปข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.)
สำหรับเส้นทางในการเดินทางของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น หลักๆ จะใช้เส้นทางหลักเชียงใหม่-กรุงเทพฯ และมีเส้นทางเลี่ยงด่านตรวจอีกหลายเส้นทาง โดยในส่วนของทางตำรวจจะมีการตั้งด่านตรวจทั้งด่านหลักและด่านรอง รวมทั้งสิ้น 168 จุด เพื่อตรวจรถยนต์ ตรวจบัตรประชาชน และการพกพาอาวุธ โดยไม่ได้เป็นการสกัดกั้นไม่ให้มีการเดินทางแต่อย่างใด แต่เป็นการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากในทางการข่าวระบุว่ามีการเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มในการซื้อน้ำมันกักตุนไว้ ซึ่งน้ำมันสามารถดัดแปลงเป็นระเบิดเชื้อเพลิงได้และเอาไปใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ
ขณะที่ พลตำรวจตรี สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า มีการแบ่งการทำงานเป็นหลายส่วน ทั้งการตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลัดเพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของผู้ชุมนุมที่จะเข้ากรุงเทพฯ และตรวจดูไม่ให้มีการพกพาอาวุธไปด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของสถานที่ราชการต่างๆ จะมีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันกลุ่มมือที่สามฉวยโอกาสก่อความไม่สงบ ตลอดจนมีการประสานทางการข่าวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า เวลานี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 5 ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์ประสานงานในการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรทุกแห่งเป็นประจำทุกวันเพื่อรายงานและสรุปข้อมูลการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองเข้าร่วมประชุมด้วย
พ.ต.อ.เขมรินทร์ หัสศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากข้อมูลทางการข่าวของตำรวจ ระบุว่า จะมีกลุ่มมวลชนจากพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 5 เข้าร่วมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ประมาณ 30,000 คน ใช้รถยนต์ในการเดินทางประมาณ 1,000 คัน โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่มีประมาณ 5,000-10,000 คน อย่างไรก็ตามจะมีการสรุปข้อมูลที่ชัดเจนมากกว่านี้อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.)
สำหรับเส้นทางในการเดินทางของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น หลักๆ จะใช้เส้นทางหลักเชียงใหม่-กรุงเทพฯ และมีเส้นทางเลี่ยงด่านตรวจอีกหลายเส้นทาง โดยในส่วนของทางตำรวจจะมีการตั้งด่านตรวจทั้งด่านหลักและด่านรอง รวมทั้งสิ้น 168 จุด เพื่อตรวจรถยนต์ ตรวจบัตรประชาชน และการพกพาอาวุธ โดยไม่ได้เป็นการสกัดกั้นไม่ให้มีการเดินทางแต่อย่างใด แต่เป็นการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากในทางการข่าวระบุว่ามีการเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มในการซื้อน้ำมันกักตุนไว้ ซึ่งน้ำมันสามารถดัดแปลงเป็นระเบิดเชื้อเพลิงได้และเอาไปใช้ในพื้นที่กรุงเทพฯ
ขณะที่ พลตำรวจตรี สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการเตรียมการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า มีการแบ่งการทำงานเป็นหลายส่วน ทั้งการตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลัดเพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของผู้ชุมนุมที่จะเข้ากรุงเทพฯ และตรวจดูไม่ให้มีการพกพาอาวุธไปด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของสถานที่ราชการต่างๆ จะมีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันกลุ่มมือที่สามฉวยโอกาสก่อความไม่สงบ ตลอดจนมีการประสานทางการข่าวติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย
