ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ผบช.ภ.3” เผยเตรียมพร้อมรับมือม็อบแดงอีสานนัดรวมฝูง ที่ อ.ปากช่อง โคราช 12-13 มี.ค.ก่อนบุกกรุง 14 มี.ค.โดยระดมตำรวจโคราช-ชุดควบคุมฝูงชนร่วม 3,000 นาย คุมเข้ม สั่ง ตร.จังหวัดใกล้เคียงเตรียมพร้อมในที่ตั้ง มั่นใจ ตร.ควบคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่จำเป็นต้องขอกำลังทหารช่วย ขู่ นำรถ “อีแต๋น” มาวิ่งบนทางหลวงจับแน่ ประเมินม็อบแดงอีสานไม่ถึงแสนตามคำคุยแกนนำ เร่งส่งชุดมวลชนสัมพันธ์และสายตรวจทำความเข้าใจ ปชช.ในพื้นที่
วันนี้ (9 มี.ค.) พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผยถึงแผนการเตรียมรับมือการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงภาคอีสานที่นัดรวมตัวกันที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 12-13 มี.ค.นี้ ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าร่วมชุมนุมใหญ่กับกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศ 14 มี.ค.ที่กรุงเทพฯ ว่า ช่วงนี้กำลังสืบสวนติดตามหาข่าวกลุ่มแกนนำต่างๆ ทุกกลุ่มที่จะนำคนเสื้อแดงเข้ามารวมตัวกัน และชี้แจงทำความเข้าใจโดยใช้เจ้าหน้าที่สายตรวจและตำรวจชุมชนสัมพันธ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดของภาคอีสานได้เน้นเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชนที่จะไปร่วมชุมนุมแล้ว ในส่วนของตำรวจจะดูแลการรักษาความปลอดภัยและป้องกันมือที่สามที่อาจก่อเหตุให้เกิดความรุนแรง
ส่วนการตั้งจุดตรวจตามถนนสายหลักนั้น มีการตั้งด่านตรวจเป็นปกติอยู่แล้ว เน้นการตรวจสิ่งผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติดและอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ซึ่งมีอยู่ประมาณ 150-200 จุด ในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง โดยจะสลับหมุนเวียนกันไปตามจุดต่างๆ ไม่มีการตั้งด่านสกัดกั้นการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรและประชาชนสามารถเดินทางมาชุมนุมได้ตามรัฐธรรมอยู่แล้ว
ต่อข้อถามที่ว่า หากกลุ่มคนเสื้อแดงนำรถอีแต๋นขึ้นมาวิ่งตามถนนทางหลวง เพื่อเข้าร่วมการชุมนุมจะตรวจจับหรือไม่ พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า รถอีแต๋นนำขึ้นมาวิ่งบนทางหลวงผิดกฎหมายอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ต้องตรวจจับ และมั่นใจว่า ตำรวจท้องที่คงไม่ปล่อยให้เดินทางมาถึงโคราชแน่นอน
“การนำรถที่มีสภาพไม่สมบูรณ์ ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมาใช้บนทางหลวงก็เป็นความผิด ซึ่งเราไม่สามารถผ่อนผันได้ ถ้าพบการกระทำผิดต้องดำเนินคดี และไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดง ซึ่งกฎหมายบังคับใช้กับคนทั่วไปอยู่แล้ว เช่น รถอีแต๋น ในทางกฎหมายจะนำมาวิ่งบนทางหลวงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นรถใช้เพื่อการเกษตร” พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าว
พล.ต.ท.เดชาวัต ยังกล่าวถึงการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อยและดูแลการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ในวันที่ 12-13 มี.ค.ว่า จะใช้กำลังตำรวจของ จ.นครราชสีมา เป็นหลัก และหน่วยปราบจลาจลอีกประมาณ 6 กองร้อยหรือประมาณ 900 นาย รวมจะใช้กำลังตำรวจร่วม 3,000 นาย และได้สั่งเตรียมความพร้อมของกำลังตำรวจในจังหวัดใกล้เคียงไว้ด้วย ทั้งนี้จะต้องประเมินสถานการณ์ดูอีกครั้งหนึ่ง โดยจะจัดกำลังตำรวจไปดูแลตามสมควร
ส่วนการขอกำลังทหารเข้ามาสนับสนุนนั้น จะขอเมื่อมีความจำเป็น แต่มั่นใจว่าตำรวจควบคุมสถานการณ์ได้ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนกรณีที่แกนนำประกาศว่าจะมีคนเสื้อแดงภาคอีสาน 19 จังหวัดนับแสนคนมารวมตัวกันที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ นั้น พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า จากการข่าวคิดว่าไม่น่าจะถึง 1 แสนคน แต่จะมากน้อยเพียงใดขณะนี้กำลังให้ฝ่ายข่าวติดตามสถานการณ์อยู่ เพราะในทุกพื้นที่มีการออกประชาสัมพันธ์เชิญชวนชาวบ้านให้เข้าร่วมการชุมนุม ขณะเดียวกัน ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็ได้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชน ฉะนั้นจึงยังบอกตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ แต่มั่นใจว่าไม่ถึง 1 แสนคนแน่นอน
“ในส่วนคนเสื้อแดง 32 อำเภอ ของ จ.นครราสีมา ที่จะเดินทางมารวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ในวันที่ 12 มี.ค.และมีกำหนดจะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านแม่ทัพบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ ถ.สืบศิริ หน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นั้น ได้มีแผนรองรับไว้แล้ว คือ แผนเดิมที่ใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ในการดูแลสถานที่ราชการและบ้านพักบุคคลสำคัญ คิดว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าว
