แพร่ – ส.ส.เมืองแพร่พรรคเพื่อไทยเรียงหน้าขึ้นเวทีปลุกระดมคน 8 จังหวัดภาคเหนือเข้ากรุงสู้เพื่อ "นช.แม้ว" แต่พลาดเป้า รวมพลได้แค่หลักพันจากเป้าหมาย 5 หมื่น ทั้ง “วรวัจน์-นิยม” สั่งนำไม้ไผ่ติดตัวเข้าไปแสนอัน แถมใช้ความเท็จปั่นหัวชาวบ้าน อ้าง “มารค์สั่งฆ่าเสื้อแดงช่วงเมษาฯ52”
รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า การชุมนุมของกลุ่ม นปช.8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่สนามหน้าโรงเรียนหัวดง ต.ดอนมูล อ.สูงเม่น จ.แพร่ เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 มี.ค.) อันเป็นการอุ่นเครื่องปลุกระดมคนเสื้อแดงภาคเหนือ ก่อนยกพวกเข้าสมทบกับทวนชนภาคเหนือตอนล่าง-กลาง ตอนบนที่นครสวรรค์ในวันที่ 12 มี.ค.53 มีนายวีระ มุสิกพงษ์ ,นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ เข้าร่วมด้วย ท่ามกลางเครือข่ายเสื้อแดงใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนประมาณ 5,000 คน
ถือว่าน้อยกว่าเป้าหมายที่ก่อนหน้านี้แกนนำตั้งเป้าไว้ว่าจะมีคนแพร่ออกมาร่วมเวทีไม่น้อยกว่า 30,000 คน และจาก 7 จังหวัดภาคเหนือตอนบนอีก 20,000 คน รวมเป็น 50,000 คน
ในการชุมนุมครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้วิดีโอลิงก์เข้ามา ปลุกปั่นให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมในวันที่ 14 มีนาคมนี้ให้มากที่สุด และปลุกให้ประชาชนที่เดินทางเข้า กทม. ต่อสู้กับการขัดขวางของเจ้าหน้าที่ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า เป็นตัวแทนของกลุ่มอำมาตย์และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ ถือเป็นการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่
สำหรับเวทีดังกล่าวนี้ กล่าวได้ว่ามี ส.ส. จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย อาทิ นายแพทย์นิยม วิวรรณธนดิษฐกุล ,นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เป็นแม่งานใหญ่ และขึ้นเวทีปลุกเร้าให้ประชาชนเข้า กทม.อย่างโจ่งแจ้ง
โดยนายแพทย์นิยม บอกว่า ต้องไปสู้กับผู้ครองอำนาจในปัจจุบันที่มีกลุ่มอำมาตย์หนุนหลัง เมืองไทยจะเป็นสองมาตรฐานไม่ได้ ขอให้ชาวแพร่เดินทางไปกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อเผด็จศึก การเดินทางไปจะต้องนำกระบอกไม้ไผ่ขนาดยาว 2 ฟุต ไปด้วยคนละหนึ่งอันเพื่อเป็นเครื่องช่วยตบมือ ซึ่งไม้ไผ่ดังกล่าวเป็นเกราะเคาะสัญญาณของประชาชนในอดีต จะต้องเอาติดตัวไป ซึ่งขณะนี้นายวรวัจน์ เป็นผู้ผลิตขึ้นมาแล้วจำนวนนับแสนอันเพื่อให้ชาวแพร่ถือติดมือไปร่วมชุมนุม
ส่วนนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทยอีกคนหนึ่ง กล่าวโจมตีรัฐว่า มีการจัดการกับกลุ่มเสื้อแดงอย่างไม่เป็นธรรม ในกาชุมนุมเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีหลักฐานชัดแล้วว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งการ ตนได้รวบรวมเทปเพื่อจะเปิดในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีอยู่หลายตอนที่เป็นคำพูดของผู้นำประเทศสั่งฆ่าประชาชน ดังนั้นในวันที่ 14 มีนาคม ประชาชนชาวแพร่จะต้องไปพร้อมกันให้มากที่สุด และเขาเองจะออกมารับประชาชนชาวแพร่ด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ เวทีได้ยุติลงเนื่องจากประชาชนเริ่มบางตาเมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้(10 มี.ค.)โดยกลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมกันอีกครั้งในเวลา 12.00 น.วันที่ 12 มีนาคมที่สามแยกเด่นชัย พร้อมกับมวลชนทั้ง 8 จังหวัดเดินทางเข้า กทม.
ประธาน อสม.รายหนึ่งใน อ.สูงเม่น กล่าวว่า ตนไม่มีเวลาพอที่จะไปชุมนุมใน กทม.เพราะภารกิจส่วนรวมและส่วนตัวในจังหวัดแพร่มีมากและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ชาวบ้านที่ ต.หัวทุ่ง อ.ลอง กล่าวว่า ส.ส.แพร่ หลอกไปชุมนุมหลายครั้งบางครั้งก็ดี บางครั้งก็มีปัญหา ทำโครงการพัฒนาก็มีปัญหา ส่วนการไป กทม.ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เดือนเมษาก็ครั้งหนึ่งแล้ว ที่คนแก่ต้องไปลำบาก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การปลุกระดมชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดแพร่นั้น ส่วนใหญ่แกนนำในเครือข่ายนักการเมืองจะใช้ข้อมูลบางส่วนในการปลุกปั่นประชาชน อ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะกรณียึดทรัพย์ ทำให้ประชาชนเชื่อว่ามีความไม่เป็นธรรม เป็นเรื่องของสองมาตรฐาน แต่เลี่ยงที่จะไม่อธิบายถึงที่มา ที่ไปของปัญหาว่า แท้จริงแล้วต้นตอของปัญหาอยู่ที่พฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเครือข่ายเอง
อย่างไรก็ตาม การออกปลุกปั่นดังกล่าว ก็ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ด้วยเช่นกัน เนื่องจากชาวบ้านจะเกิดการหลงผิด ซึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุมที่ อ.สูงเม่น ที่เป็นแกนนำ เชื่อว่าจะเกิดความรุนแรงแน่นอน จนทำให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ อยู่ไม่ได้