เชียงราย - ก๊วนเสื้อแดงเชียงรายยัน ส.ส.เพื่อไทย รับปากหนุนรวมพลเข้ากรุงเต็มที่ รอนัดหมายหลัง 15 ม.ค.53 อ้างสภาแดงล้านนา ได้โควตาแล้ว 400 คันรถบัส ขณะที่กลุ่ม 24 มิถุนาฯ เชียงราย ย้ำไม่ร่วมแน่นอน หลังถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง ปล่อยให้เผชิญชะตากรรมกันเองมานาน เผยเคยเปิดหน้าถาม 3 เกลอหัวขวดมาแล้ว ใครอมงบเคลื่อนไหว ส่วนที่พะเยาเปิดเกมแย่งงบจัดเวทีกันแล้ว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงหลายพื้นที่ต่างได้รับแจ้งให้รอฟังคำสั่งจากการประชุมแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในการเตรียมเคลื่อนไหวเพื่อชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ เพื่อล้มรัฐบาลชุดปัจจุบัน และช่วยเหลือนักโทษหนีคดีอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้กลับคืนสู่อำนาจ ซึ่งมีกระแสว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรือต้น ก.พ.นี้
โดยกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตยเชียงราย นำโดยนายบุญเลิศ บุญศรี ประธานกลุ่ม ระบุว่า พึ่งเสร็จสิ้นการประชุมกับสมาชิกในพื้นที่ อ.เทิง เมื่อ 12 ม.ค.53 และได้รับแจ้งจากนายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 2 เชียงราย พรรคเพื่อไทย ว่าจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่หลังจากที่ผ่านมาประสบปัญหาเรื่องการขับเคลื่อนระหว่าง ส.ส.กับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เป็นไปในลักษณะต่างฝ่ายต่างดำเนินการ ขณะที่กลุ่มเชียงราย 49 และชมรมคนรักทักษิณเชียงรายนำโดย น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม พึ่งจะเดินทางกลับจากการไปชุมนุมที่เขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา ก็กำลังกลับไปรอฟังคำสั่งในพื้นที่ตัวเองแล้ว
นายบุญเลิศกล่าวว่า กลุ่มได้จัดประชุมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องและเตรียมมวลชนเอาไว้ไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ อย่างเต็มที่ หากได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการในการประชุม นปช.วันที่ 15 ม.ค.นี้ โดยจะระดมคนเดินทางออกจาก จ.เชียงราย ไปรวมพลกันที่ จ.แพร่ ก่อนจะเดินทางไปรวมตัวกันอีกครั้งที่ จ.นครสวรรค์ และรุกต่อไปยังกรุงเทพฯ ตรงสนามหลวง ถนนราชดำเนิน และพระบรมรูปทรงม้า
ทั้งนี้ นอกจากกลุ่มต้นกล้าประชาธิปไตยจะมีมวลชนเดิมอยู่แล้ว ยังพบว่ามีคนเสื้อแดงกลุ่มอื่นๆ พยายามจะเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกด้วยเนื่องจากกลุ่มเราเป็นสมาชิกของสภาแดงล้านนา 8 จังหวัดภาคเหนือซึ่งมีโครงสร้างชัดเจน
“สภาแดงล้านนา 8 จังหวัดภาคเหนือได้โควตารถยนต์ในการเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ หลังผลการประชุมวันที่ 15 ม.ค.นี้ จำนวน 400 คันรถบัส และจะแบ่งกันไปตามจังหวัดต่างๆ จังหวัดละประมาณ 50 คัน แต่สำหรับเชียงรายน่าจะได้ประมาณ 60 คัน เพราะแม่ฮ่องสอน อาจจะมีปัญหาเรื่องระยะทางและอื่นๆ” นายบุญเลิศ กล่าวโดยอ้างระบบโควตาที่ได้รับ
ขณะที่ข้อเท็จจริงในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงหลายครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีจำนวนคนเสื้อแดงในการเดินทางไปร่วมการชุมนุมมากมายถึงขั้นนี้ โดยข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคงทราบเพียงว่า ในเดือน เม.ย.2552 ที่ผ่านซึ่งเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดมีมวลชนเดินทางไปเพียงประมาณ 10 คันรถเท่านั้น
ด้าน น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ แกนนำจากกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย และเจ้าของวิทยุชุมชนคนรากหญ้าเพื่อประชาธิปไตยซึ่งเป็นกระบอกเสียงสำคัญของคนเสื้อแดงในพื้นที่ ยังคงยืนยันว่า ตัวเองจะไม่เดินทางไปร่วมการชุมนุมดังกล่าวอย่างเด็ดขาดเพราะที่ผ่านมาเคยทุ่มเทกับการประกอบกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ แต่ผลที่ได้รับก็คือคดีความรวม 6 คดีและสภาพความเป็นอยู่ด้านต่างๆ ที่ย่ำแย่ลง แม้แต่การเดินทางไปร่วมการชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งใช้รถยนต์ส่วนตัวไปบางครั้งขากลับประสบอุบัติเหตุเกือบเอาตัวไม่รอด แต่ปรากฏว่าไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือเลยดังนั้นครั้งนี้จึงไม่ขอเดินทางไปด้วย
น.ส.จิรนันท์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาในการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ กรุงเทพฯ ตนทนไม่ไหวจึงออกมาถามนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ หนึ่งในแกนนำ นปช.ว่าเหตุใดเมื่อคนเสื้อแดงออกมาร่วมชุมนุมและประสบกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคดีความ สภาพความเป็นอยู่ระหว่างการชุมนุม ซึ่งต้องกินอยู่กันแบบหากินเองหรือบุฟเฟ่ต์ จึงไม่ได้รับการช่วยเหลือทั้งๆ ที่เคยมีการจัดงานระดมงบประมาณกันอยู่แล้ว แต่อยากรู้ว่างบประมาณนั้นหายไปไหน ซึ่งคำตอบที่ตนได้รับกลับคืนมาคือพวกเขาก็ได้ประสบกับสภาพดังกล่าวเหมือนกัน
แกนนำคนเสื้อแดงรายนี้ยังกล่าวอีกว่า ตนยังถามด้วยว่าเหตุใดในการชุมนุมของคนเสื้อแดงในหลากหลายเวที จึงไม่เปิดโอกาสให้ตัวแทนคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ ในระดับภูมิภาคได้ขึ้นไปพูดบนเวทีบ้าง อย่างน้อยๆ ก็ขอให้พวกเราได้พูดความในใจคนละ 4-5 นาทีก็ยังดี แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับโอกาสเลย ซึ่งนายณัฐวุฒิ ให้คำตอบว่าไม่อยากให้ใช้เป็นเวทีในการแจ้งเกิดของบุคคลใดๆ ซึ่งทำให้พวกตนรู้สึกเจ็บช้ำใจอย่างมาก
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าสำหรับความเคลื่อนไหวใน จ.พะเยา ซึ่งเดิมเคยมองกันว่าไม่ค่อยเกิดปัญหาเพราะมีความเป็นเอกภาพระหว่างนักการเมืองกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ล่าสุดได้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาแล้ว โดยเดิมกลุ่มพะเยาอาร์มี ซึ่งได้รับการสนับสนุนการประสานงานจากนางลัดดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และคนบ้านเลขที่ 111 ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมืองในคดียุบพรรคไทยรักไทย และสถานที่จากนายไพโรจน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย เพื่อจัดงานรวมพลคนเสื้อแดงบริเวณตลาดคลองถม ต.นาปรัง อ.ปง จ.พะเยา
โดยมีนายอนุรักษ์ โป่งสุริยา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ออย อ.ปง เป็นแกนนำ เมื่อ 10 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่าต้องล้มงานดังกล่าวไป และอาจจะไม่มีการจัดต่อในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ทั้งๆ ที่เคยมีกำหนดจะจัดงานแบบโต๊ะจีนจำนวน 100 โต๊ะๆ ละ 1,000 บาท
โดยมีสาเหตุมาจากการที่ ส.ส.พะเยา นำโดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา จากพรรคเพื่อไทย อีกคนได้ดึงงานไปจัดที่สนามกีฬา ต.เชียงแรง อ.ภูซาง แล้ว โดยงานดังกล่าวมีการติดป้ายประชาสัมพันธ์ตามจุดต่างๆ ของ จ.พะเยา ว่า จะมีสามเกลอคนเสื้อแดงนำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ -นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รวมทั้งนายวิสา คัญทัพ และไพจิตร อักษรณรงค์ ไปร่วมด้วย ทั้งนี้มีการระบุข้อความว่าจะมีโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ จากเมืองดูไบเข้าไปยังงานด้วย ซึ่งหลังจากมีการจัดงานดังกล่าวทำให้กำหนดการณ์เดิมของกลุ่มพะเยาอาร์มี่เกิดความสับสนเพราะเดิมมีกำหนดจะเลื่อนจัดงานมาเป็นวันที่ 17 ม.ค.เช่นกัน
แหล่งข่าวระบุว่าสาเหตุที่การจัดงานของกลุ่มพะเยาอาร์มี่ต้องเลื่อนออกไปเพราะได้มีงบประมาณก้อนโตลงไปในพื้นที่เพื่อการจัดงานดังกล่าว จึงทำให้หลายฝ่ายต้องการนำงบประมาณไปใช้ประโยชน์ ขณะที่บรรดา ส.ส.มีบทบาทมากกว่าจึงดึงไปจัดที่ ต.ภูซาง ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะทำให้ได้รับประโยชน์ทั้งงานด้านมวลชน การปลุกกระดมตามแนวทางของพรรคและ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งงบประมาณที่เหลืออีกด้วย จึงทำให้เริ่มเกิดร้อยร้าวในพื้นที่เช่นกัน