xs
xsm
sm
md
lg

ปภ.กาฬสินธุ์เปิดสายด่วนรับร้องทุกข์ภัยแล้ง - เกษตรกรพ้อปลูกพืชน้ำน้อยยังยืนแห้งตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์- ปภ.กาฬสินธุ์ เปิดสายด่วน 1784 รับร้องทุกข์ปัญหาภัยแล้ง ขณะที่น้ำเขื่อนลำปาวลดลงต่อเนื่องปัจจุบันเหลือเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น เกษตรกรพ้อแม้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยก็ยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำจนพืชสวนยืนแห้งตาย ด้านตำรวจภูธรกาฬสินธุ์ ย้ำเฝ้าระวังปัญหาโจรขโมยเครื่องจักรการเกษตรหน้าแล้ง

นายวิทยา มากปาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังสำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้งทั้ง 18 อำเภออย่างเร่งด่วน เนื่องจากสถานการณ์แล้งของปีนี้รุนแรงกว่าทุกปี เพราะภัยแล้งปีนี้มาเร็วกว่าทุกปี โดยเบื้องต้นจะให้ความสำคัญกับการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนกรณีน้ำอุปโภค-บริโภค นอกจากนั้น ก็คือ เรื่องของน้ำเพื่อการเกษตร

ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือในการลดการปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่เสี่ยงน้ำน้อย และแนะนำให้ปลูกพืชระยะสั้นในหน้าแล้งเสริมรายได้แทน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแย่งน้ำกันระหว่างคนในหมู่บ้านเดียวกัน

ทั้งนี้ ได้ทำหนังสือเตือนไปถึงนายอำเภอทั้ง 18 อำเภอให้ดูแลปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของราษฎรอย่างใกล้ชิด และให้ประชาสัมพันธ์สายด่วนรับเรื่องราวเดือดร้อนที่หมายเลข 1784 ประชาชนสามารถโทรแจ้งความร้องทุกข์ได้ตลอด 24 ชม.

อย่างไรก็ตาม ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว จากรายงานพบว่า ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณ 768 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความจุอ่าง 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 54 ทั้งนี้ทางเขื่อนลำปาวยังคงส่งน้ำเพื่อการเกษตรให้ในพื้นที่เขตชลประทานทั้งนาปรังและนากุ้งรวมพื้นที่กว่า 300,000 ไร่ โดยมีการระบายน้ำอย่างต่อเนื่องวันละ 7 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายประเสริฐ ภูสีเขียว อายุ 39 ปี เกษตรกรบ้านดงเค็ง ตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอยางตลาด ระบุว่า ปัญหาภัยแล้งปีนี้ถือว่ารุนแรงกว่าทุกปี และมีแนวโน้มที่จะยาวนานหลายเดือน ตนและเพื่อนเกษตรกรหลายราย ไม่กล้าเสี่ยงที่จะปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากวิตกว่าจะมีน้ำใช้ไม่เพียงพอ จึงได้หันมาจับกลุ่มปลูกพืชฤดูแล้ง อายุสั้น และใช้น้ำน้อย ตระกูลบวบ และแตง แทนการปลูกข้าวนาปรัง แต่ความแห้งแล้งที่มารวดเร็วทำให้ต้องลดความเสี่ยงด้วยการเก็บยอดบวบขายก่อนกำหนด

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ถึงแม้ตนจะปลูกพืชฤดูแล้งดังกล่าว ก็ยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากพื้นที่ที่เพาะปลูกมีสภาพแห้ง ขณะที่แหล่งน้ำที่ใช้ก็สูบจากคลองชลประทาน ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร ที่บางครั้งไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุให้พืชตายและเป็นโรคเป็นจำนวนมาก

ด้าน พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในพื้นที่ของ จ.กาฬสินธุ์กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ซึ่งชาวบ้านเองก็ต้องนำเครื่องจักรการเกษตร เครื่องสูบน้ำ ปั๊มน้ำ มาสูบน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร ซึ่งเครื่องจักรประเภทนี้ในตลาดมืดยังมีราคา หรือตลาดมือสองทั่วไป รวมทั้งร้านซื้อขายของเก่าก็มีความต้องการไม่น้อย

โดยในช่วงหน้าแล้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีในพื้นที่ 18 อำเภอ 23 สถานี ได้ออกกวดขันดูแลความปลอดภัยทรัพย์มีค่าของประชาชน โดยเน้นการป้องกันการลักเล็กขโมยน้อย การโจรกรรมต่างๆ ที่จะเป็นการซ้ำเติมประชาชน

ทั้งนี้ อยากฝากเตือนไปถึงเกษตรกร กรณีใช้เครื่องจักรอุปกรณ์การเกษตรเรียบร้อยแล้วต้องนำไปเก็บรักษาในที่มิดชิด เพื่อป้องกันมิจฉาชีพฉวยโอกาสขโมยเครื่องจักรการเกษตร รวมทั้งการเฝ้าระวังความปลอดภัยในทรัพย์สินตามบ้านพักที่อยู่อาศัยในยามหน้าแล้งที่ส่วนใหญ่จะไม่มีคนเฝ้าบ้านดูแล เพราะต้องออกไปทำมาหากิน ถือเป็นโอกาสเหมาะของกลุ่มมิจฉาชีพ

พล.ต.ต.คณิสร ระบุอีกว่า ปัจจุบันในพื้นที่เริ่มมีปัญหาการขโมยเครื่องสูบน้ำ และเครื่องจักรการเกษตรกันบ้างแล้วในหลายท้องที่ รวมทั้งการงัดแงะที่พักอาศัยของกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนเร่งติดตามหาข่าวเพื่อนำทรัพย์สินกลับคืนมา

นอกจากนี้ ยังได้สั่งให้จับตาบรรดาร้านค้าขายเครื่องจักรอุปกรณ์การเกษตร ร้านค้าของเก่า ที่จะเป็นแหล่งพักสินค้าแหล่งรับซื้อของโจรแหล่งใหญ่ หากพบผิดปกติ หรือมีพฤติกรรมที่ส่อไปในแนวทางผิดกฎหมายต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดตามกฎหมายทันที

กำลังโหลดความคิดเห็น