ศูนย์ข่าวภาคเหนือ – จังหวัดลำปางรณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอีกระลอก หลังพบการเผาป่าไม่หยุด ทำอากาศวิกฤตต่อเนื่อง ขณะที่ “แม่สาย” ยังไม่คลี่คลาย PM10 พุ่งอีกเป็น 281 ไมโครกรัม/ลบ.ม.แล้ว เช่นเดียวกับอีกหลายจังหวัดที่ติดโผควันไฟคลุ้งทั่วเมือง ขณะที่ลำพูน กลับมามีปัญหาซ้ำ
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่บริเวณสนามโรงเรียนแม่เมาะวิทยา อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นายอุทาร ชวเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าแม่เมาะ ครั้งที่ 2 เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาหมอกควันที่กำลังเป็นปัญหาเป็นใหญ่ของภาคเหนือในเวลานี้ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ยังคงเป็นการเผาป่า เผาหญ้าในที่โล่ง และอำเภอแม่เมาะก็เป็นอีกอำเภอหนึ่งที่มีปัญหาหมอกควันและไฟป่า ทำให้ปริมาณฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กเกิน 10 ไมครอนเกินมาตรฐาน
โดยนอกจากนำมวลชนกว่า 1 พันคน กล่าวคำปฏิญาณตน ทำความดี เพื่อพ่อของแผ่นดินด้วยการไม่เผาป่าเผาหญ้าแล้ว ยังได้มีการสาธิตการดับไฟ หากประชาชนไปพบเห็น ก็สามารถช่วยดับไฟได้ รวมถึงการเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ไปตามตำบล หมู่บ้าน และเขตอำเภอแม่เมาะ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงผลร้ายของการเกิดปัญหาหมอกควันและไฟป่า และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
ขณะเดียวกัน เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จังหวัดลำปางได้มีการเสริมพารามอเตอร์ และเฮลิคอปเตอร์ เพื่อใช้ตรวจสอบพื้นที่และใช้ในการดับไฟในพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าถึงไว้ด้วย
สำหรับปริมาณฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กเกิน 10 ไมครอนเกิน หรือ PM-10 ของลำปางวันนี้ (9 มี.ค.) ก็ยังคงเกินมาตรฐาน อยู่ที่ 137.6 ไมโครกรัมต่อ ลบ.ม.ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือค่า AQI เท่ากับ 108
นายแพทย์ ศิริชัย ภัทรนุธาพร สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นทางภาคเหนือรวมทั้งลำปาง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ได้แก่อาการในระบบทางเดินหายใจ จากการเฝ้าระวังผู้ป่วยจากการตรวจและรักษาของสถานพยาบาลต่างๆ จำนวน 4 โรค
ได้แก่ โรคทางเดินหายใจ โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคหัวใจ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.53 เป็นต้นมา และในช่วงระหว่างวันที่ 23-28 ก.พ.53 ที่ PM10 เกินมาตรฐานและมีผลกระทบต่อสุขภาพ เฉลี่ยมีผู้ป่วยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลวันละประมาณ 246-522 คน ยังไม่พบยอดผู้ป่วยเข้ารับการรักษามากเกินผิดปกติ
ทั้งนี้ รายงานคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในวันนี้ ปรากฏว่า พื้นที่ภาคเหนือนอกจากลำปาง ที่ยังคงมีค่า PM10-AQI เกินมาตรฐานแล้ว อีกหลายจังหวัดก็ยังคงมีคุณภาพอากาศเลวร้ายต่อเนื่องเช่นกัน โดยที่ อ.แม่สาย ยังรั้งอัน 1 มีค่า PM10 สูงขึ้นเป็น 281.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม.-AQI 170 ,ตัวเมืองเชียงราย PM10 213.0 ไมโครกรัม/ลบ.ม.-AQI 140
เช่นเดียวกัน ที่พะเยา ที่ PM10 พุ่งสูงเป็น 194 ไมโครกรัม/ลบ.ม.-AQI 132 แล้ว, เมืองน่าน ก็วัดค่า PM10 ได้ถึง 181.3 และ AQI 127, แม่ฮ่องสอน PM10 อยู่ที่ 180.4 ไมโครกรัม/ลบ.ม.-AQI อยู่ที่ 126 นอกจากนี้ ที่จังหวัดลำพูน คุณภาพอากาศที่เคยดีขึ้นมาหลายวัน ก็กลับมามีปัญหาอีกครั้ง โดยวัดค่า PM10 ได้สูงถึง 163.8 ไมโครกรัม/ลบ.ม.-AQI อยู่ที่ 119
