ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เตรียมบินทำฝนเทียมบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และมลภาวะอากาศในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 11 มี.ค.53 นี้ เริ่มที่ เชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ซึ่งกำลังประสบปัญหาหนัก ระบุมีโอกาสสูงถึง 60% ทำฝนสำเร็จ
นายทรง กลิ่นประทุม หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยการเตรียมความพร้อมปฏิบัติการทำฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและปัญหาหมอกควันไฟป่า ว่า ในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี 2553 ได้มีการติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์และด้านเทคนิคอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 10 มี.ค.53 นี้ เครื่องบินจำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์จำนวน 1 ลำ ที่ใช้สำหรับปฏิบัติการจะมาถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว จากนั้นในวันที่ 11 มี.ค.53 จะเริ่มปฏิบัติการทันที
ทั้งนี้ การปฏิบัติการฝนหลวงที่จะมีการดำเนินการในช่วงแรกนั้น นายทรง กล่าวว่า จะเป็นในเรื่องของการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าและมลภาวะอากาศ ที่หลายพื้นที่ของภาคเหนือตอนบนกำลังเผชิญปัญหาอยู่ในเวลานี้ โดยในวันที่ 11 มี.ค.53 ซึ่งเป็นวันแรกของการปฏิบัติการ เบื้องต้นกำหนดจะเริ่มทำฝนหลวงก่อนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ที่กำลังประสบปัญหามลภาวะอากาศอย่างหนัก เพื่อบรรเทาความรุนแรงของปัญหา ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สถานการณ์ปัญหาถือว่ายังไม่มีความรุนแรง แต่ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวด้วยว่า การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จะมีการประชุมเพื่อติดตาม ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์สภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน เพื่อกำหนดแผนงานที่จะดำเนินการ หากพบว่าพื้นที่ใดที่มีปัญหามากกว่าก็จะเข้าไปปฏิบัติการเรียงตามลำดับความรุนแรงของปัญหาที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ ทั้งนี้การปฏิบัติการทำฝนเทียมในช่วงนี้เชื่อมั่นว่ามีโอกาสถึงประมาณ 60% ที่จะทำให้เกิดฝนตกได้
นายทรง กลิ่นประทุม หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยการเตรียมความพร้อมปฏิบัติการทำฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งและปัญหาหมอกควันไฟป่า ว่า ในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี 2553 ได้มีการติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์และด้านเทคนิคอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 10 มี.ค.53 นี้ เครื่องบินจำนวน 2 ลำ และเฮลิคอปเตอร์จำนวน 1 ลำ ที่ใช้สำหรับปฏิบัติการจะมาถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว จากนั้นในวันที่ 11 มี.ค.53 จะเริ่มปฏิบัติการทันที
ทั้งนี้ การปฏิบัติการฝนหลวงที่จะมีการดำเนินการในช่วงแรกนั้น นายทรง กล่าวว่า จะเป็นในเรื่องของการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่าและมลภาวะอากาศ ที่หลายพื้นที่ของภาคเหนือตอนบนกำลังเผชิญปัญหาอยู่ในเวลานี้ โดยในวันที่ 11 มี.ค.53 ซึ่งเป็นวันแรกของการปฏิบัติการ เบื้องต้นกำหนดจะเริ่มทำฝนหลวงก่อนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ ที่กำลังประสบปัญหามลภาวะอากาศอย่างหนัก เพื่อบรรเทาความรุนแรงของปัญหา ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ สถานการณ์ปัญหาถือว่ายังไม่มีความรุนแรง แต่ต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวด้วยว่า การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จะมีการประชุมเพื่อติดตาม ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์สภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน เพื่อกำหนดแผนงานที่จะดำเนินการ หากพบว่าพื้นที่ใดที่มีปัญหามากกว่าก็จะเข้าไปปฏิบัติการเรียงตามลำดับความรุนแรงของปัญหาที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ ทั้งนี้การปฏิบัติการทำฝนเทียมในช่วงนี้เชื่อมั่นว่ามีโอกาสถึงประมาณ 60% ที่จะทำให้เกิดฝนตกได้