ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เชียงใหม่พบดัชนีคุณภาพอากาศพุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานแล้ว ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ใกล้ทะลุเพดาน เตือนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจและกลุ่มเสี่ยงหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมนอกอาคาร ขณะที่ ผอ.ศูนย์วิจัยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เผยเตรียมเริ่มทำฝนเทียมกลาง มี.ค. หวังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นบรรเทาปัญหาหมอกควัน พร้อมภัยแล้ง
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่วันนี้(1 มี.ค.) แจ้งว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าเมื่อเวลา 09.00 น. วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 119.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) จากค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ(AQI)วัดได้ 106 สูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 100 ไปแล้ว
ขณะที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 106.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 91 ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ยังไม่มีการรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศแต่อย่างใด
ทั้งนี้การที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศ เกินค่ามาตรฐาน เป็นตัวชี้วัดว่าคุณภาพอากาศเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาแพทย์มีการแนะนำว่ากลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เด็ก และคนชรา ควรดูแลรักษาสุขภาพด้วยการเลี่ยงทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร
ด้านนายสมชัย เรืองสุทธินฤภาพ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมแผนดำเนินการทำฝนเทียมเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งไว้แล้ว ซึ่งการดำเนินการนี้จะเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันในพื้นที่เชียงใหม่ไปพร้อมกันด้วย โดยการขึ้นบินทำฝนเทียมคาดว่าจะเริ่มทำได้ในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้หลังจากที่เครื่องบินจำนวน 2 ลำ เพื่อปฏิบัติการทำฝนเทียมมาถึงเชียงใหม่ในวันที่ 15 มีนาคม
สำหรับปฏิบัติการทำฝนเทียม นายสมชัย กล่าวว่า หลักๆ น่าจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและให้พื้นที่ป่า ซึ่งจะช่วยทั้งเรื่องภัยแล้งและลดปัญหาหมอกควัน โดยพื้นที่ปฏิบัติการจะเน้นไปที่บริเวณผืนป่าตามแนวเขาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นเขตติดต่อกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้ลมที่ช่วงนี้พัดมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นตัวช่วยพัดพากลุ่มฝนเข้ามาในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงใหม่ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่า สถานการณ์ปัญหามาช้ากว่า เห็นได้จากการตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศ ที่พบว่ามีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานช้ากว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากที่ผ่านมามีฝนตกลงมาในพื้นที่เป็นระยะ จึงช่วยบรรเทาปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนการปฏิบัติการทำฝนเทียมเพิ่มเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน นายสมชัย กล่าวว่า จะเริ่มดำเนินการในช่วงที่ใกล้เข้าสู่ฤดูฝน ตั้งแต่ช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน ซึ่งช่วงนี้ดำเนินการไม่ได้ เนื่องจากปริมาณความชื้นในอากาศมีน้อยมาก ซึ่งปริมาณน้ำในเขื่อนที่น่าเป็นห่วงที่สุดได้แก่เขื่อนแม่กวง ที่พบว่ามีปริมาณน้ำในเขื่อนน้อยกว่าปกติ