xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งจับ หน.สถานีวนวัฒนวิจัยฯลอบโค่นประดู่กว่า 100 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - หัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัยลำเพา-ลำทราย กาญจนบุรี นอกรีต ลักลอบโค่น ประดู่กว่า 100 ปี ผู้ช่วยฯ ทนไม่ไหวแจ้งกรมป่าไม้ดำเนินคดี

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (8 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายบรรพต พุ่มน้ำเย็น หัวหน้าสายตรวจป้องกันรักษาป่าชุดที่ 1 สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ( ราชบุรี ) ว่า นายสมชาย แก้วกันเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัย ลำเพา-ลำทราย หมู่ 9 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อ นายเพิ่มศักดิ์ วงศ์ดี หัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัย ลำเพา-ลำทราย ในข้อข้อหาลักลอบตัดไม้ประดู่อายุกว่า 100 ปี ขนาด 5 คนโอบ และไม้ยูคาลิปตัส ที่อยู่ในเขต ของสถานีนำไปขาย จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบของกลางดังกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงสถานที่ดังกล่าว พบเจ้าหน้าที่ป่าไม้กำลังตีตราเพื่อตรวจยึดไม้ของกลาง โดยมีของกลาง คือ ไม้ประดู่ จำนวน 33 ท่อน เส้นรอบวงกลม 550 ซม.หรือประมาณ 5 คนโอบ ปริมาตรรวม 28.66 ล.บม.มูลค่าความเสียหายกว่า 3 แสนบาท นอกจากนั้น ยังมีต้นยูคาลิปตัส ที่ถูกตัดโค่นเพื่อนำไปขายกองอยู่อีกเป็นจำนวนมาก

นายสมชาย แก้วกันเนตร ผุ้ช่วยสถานีวนวัฒนวิจัย ลำเพา-ลำทราย เปิดเผยว่า ตนทำงานอยู่ที่สถานีแห่งนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งหัวหน้าคนใหม่เพิ่งเดินทางมาช่วยราชการที่นี่เป็นเวลาประมาณ 2 เดือน โดยหัวหน้าคนนี้ย้ายมาจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช บ้านโป่ง หลังจากมารับตำแหน่งได้ไม่นาน หัวหน้าคนนี้ก็เริ่มมีพฤติกรรมตัดไม้ยูคาไปขาย ซึ่งตัดไปขายแล้วหลายเที่ยวรถยนต์ ซึ่งตนไม่ทราบเหมือนกันว่านำไปขายให้กับใคร

ต่อมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หัวหน้าคนนี้ก็ได้ไปจ้างแรงงานชาวพม่ามาจากเขตอำเภอทองผาภูมิ เพื่อที่จะมาตัดต้นประดู่ที่อยู่ในป่าไม่ไกลจากสำนักงานมากนัก ซึ่งเมื่อตนเห็นตนจึงได้ขอร้องไม่ให้หัวหน้าตัดต้นประดู่ เนื่องจากต้นไม้ต้นดังกล่าวนั้นมีขนาดที่ใหญ่มาก และมีอายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือต้นไม้ต้นนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งวันสำคัญของทุกๆปี จะมีชาวบ้านเดินทางมากราบไหว้อยู่เสมอ หลังจากที่ตนได้ขอร้อง และอธิบายให้หัวหน้าฟัง หัวหน้าก็รับปากว่าจะไม่โค่นต้นประดู่อย่างแน่นอน

นายสมชาย เปิดเผยต่อว่า ต่อมาไม่นานตนจำเป็นต้องเดินทางไปทำธุระที่ กทม.แต่หลังเสร็จธุระ ตนก็มาทำงานตามปกติ ซึ่งตนตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าต้นประดู่ได้ถูกโค่นล้มไปแล้ว และมีการตัดทอนเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 2-3 เมตร จากนั้นตนจึงรีบมาสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ได้รับคำตอบเหมือนกันว่า คนที่ตัดต้นประดู่ คือ หัวหน้าสถานี โดยนำแรงงานชาวพม่ามาตัด หลังจากทราบความจริงตนจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อให้ดำเนินคดีกับหัวหน้าสถานีแล้ว เบื้องต้นหลังจากที่หัวหน้าสถานีทราบข่าวว่าตนร้องรียนไปยังผู้บังคับบัญชาหัวหน้าก็ได้เก็บเอกสารต่างๆ ออกไปจากสถานีแล้ว และยังไม่เจอหน้ากันอีกเลย

ด้าน นายบรรพต พุ่มน้ำเย็น หัวหน้าสายตรวจป้องกันรักษาป่า ชุดที่ 1 สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าว ตนได้รายงานให้ นายบุญสืบ สมัคคราช ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่าไปแล้ว และได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับหัวหน้าสถานีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ นายบุญสืบ สมัคคราช ได้เดินทางไปที่กรมป่าไม้ เพื่อรายงายข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวให้กับอธิบดีกรมป่าไม้ทราบแล้ว

ด้าน นายบุญสืบ สมัคคราช ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รายงานข้อเท็จจริงให้กับ นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ทราบแล้ว และมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จเพื่อสั่งย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งที่อื่นต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมา คณะของนายบุญสืบเดินทางเข้าไปที่สถานีวิจัยวนวัฒนวิจัยลำเพา-ลำทราย พบเจ้าหน้าที่อยู่ในบ้าน จากนั้นได้กระจายกำลังตรวจสอบพื้นที่พบต้นประดู่ที่ถูกโค่นลงเหลือแต่ตอไม้ขนาดเส้นรอบวง 550 ซม.จำนวน 1 ต้น ถูกตัดเหลือตอโผล่จากดินประมาณ 50 ซม.และพบกิ่งไม้ประดู่ที่ถูกตัดริดออกจากลำตั้งและรอยขี้เลื่อยที่ตัดทอนไม้ประดูต้นดังกล่าวรวมถึงร่องรอยการขนย้ายไม้ออกจากนอกพื้นที่สถานี ซึ่งถ้าหากนำไปขายจะมีราคาประมาณกว่า 300,000 บาทเลยที่เดียว

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ต่อไปพบตอไม้ยูคาลิปตัสอายุประมาณ 20 ปี จำนวนประมาณ 50 กว่าตอ ถูกตัดโค่นและมีการนำไม้ออกไปจากสถานีหมดแล้วเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น