นครราชสีมา - “แม่ชีมโนรา” ขอบิณฑบาตผู้คิดร้ายต่อบ้านเมือง บอกมีแต่จะสร้างกรรมให้กับตัวเอง ตายไปเป็นสัตว์เดรัจฉานหาความเจริญไม่เจอ ฟันธงบ้านเมืองไปได้ เพราะมีบารมีของพระเจ้าอยู่หัว ใครคิดทำลายสถาบันเท่ากับทำลายพ่อแม่ของพี่น้องชาวไทยทุกคน ส่วนรัฐบาลผ่านเดือนมีนาคมได้ แต่ชนะแบบสะบักสะบอม
แม่ชีมโนรา เขตภูเขียว จากสำนักปฏิบัติธรรมแม่ชีมโนรา จ.นครราชสีมา เจ้าของหนังสือย้อนรอยกรรม ระลึกชาติ สื่อวิญญาณ กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ณ วัดด่านขุนศรีอินทราทิตย์ จ.สุโขทัย ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ว่า แม้จะปรากฏข่าวการสร้างความวุ่นวายจากบางกลุ่มบางพวก แต่จะไม่มีใครทำอะไรได้ เนื่องจากประเทศไทยมีบารมีของพระเจ้าอยู่หัว และดวงวิญญาณของบูรพกษัตริย์ไทยทุกๆ พระองค์ รวมถึงวิญญาณทหารกล้าที่เสียสละเลือดเนื้อและชีวิตปกป้องรักษาบ้านเมืองไว้หลายยุคหลายสมัย คนที่คิดจะทำลายบ้านเมือง ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็เหมือนกับทำลายตัวเอง ทำลายบ้านของตัวเอง อกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด อกตัญญูต่อพ่อแม่ ต่อพระอรหันต์ของบ้านเมืองคือพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ของพี่น้องชาวไทย
“อาจารย์แม่อยากขอบิณฑบาตผู้ที่กำลังคิดในสิ่งที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง เพื่อดวงจิตจะได้สว่างไสว ไม่มืดบอด เห็นผิดเป็นชอบ คนเรามีอายุไม่ถึง 100 ปี ควรมุ่งสร้างแต่ความดี ต้องนิ่งต่อสิ่งเร้าที่จะสร้างความวุ่นวายและจะทำลายความสงบสุขของบ้านเมือง เพราะถ้าเราสนับสนุนเท่ากับเป็นการเติมเชื้อให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใครเลย ตรงกันข้ามคนที่คิดไม่ดีกับบ้านกับเมือง จะอยู่ไม่เป็นสุข ผวาตลอดเวลากลัวคนมาทำร้าย เวลาหลับก็จะฝันร้ายตลอด หน้าตาไม่สดใส ดูหม่นหมอง เงินทองจะไหลออกตลอดเวลา จึงอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน หยุดทะเลาะเบาะแวง ร่วมกันปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ” แม่ชีมโนรา กล่าว
แม่ชีมโนรา ได้ยกตัวอย่างถึงยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ต้องเสียเมืองให้กับพม่า ก็เพราะมีไส้ศึก ขายชาติ ขายแผ่นดิน แต่สุดท้ายคนพวกนี้ก็ถูกฆ่าตายจนสิ้น และเมื่อตายไปแล้วสิ่งที่แม่ชีได้เห็นภาพในอดีตชาติของเขา คือ ต้องตกนรกชั้นอเวจี และเวียนว่ายตายเกิดเป็น ไส้เดือน กิ้งกือ สัตว์เดรัจฉาน บางรายมาเกิดเป็นคนก็พิกลพิการแขนขา ไม่มีเงินใช้ ต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสหลายภพหลายชาติ และในฐานะที่เป็นนักบวชสิ่งที่จะช่วยบ้านเมืองได้คือแผ่เมตตา สร้างความดี วันที่ 29 มีนาคม - 4 เมษายนนี้ แม่ชีก็จะเข้านิโรธกรรมฐาน อดข้าว 7 วัน เป็นพุทธบูชา และเพื่ออธิษฐานจิตให้บ้านเมืองสงบสุข “จิตตัง ธันตัง สุขาวหัง” จิตของเราเมื่อฝึกฝนดีแล้ว ย่อมจะนำความสุขมาให้ เมื่อรู้สึกเครียดให้ตั้งจิตนิ่ง จิตมั่น ภาวนา พุทธัง สรณัง คัจฉามิ และให้คิดดี ทำดี และทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
แม่ชีมโนรา ยังได้ฝากข้อคิดด้วยว่า ตั้งแต่เกิด จนเข้าร่ำเรียน พ่อแม่ครูบาอาจารย์มักจะสอน ปลูกฝังให้รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และทุกเช้าเย็น ก็ช่วยกันร้องเพลงชาติ ให้ระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า เรายังคงมีชาติไทย ทุกคนเริ่มจากหัดเขียนอ่านจาก ก-ฮ ให้เราพูดและเขียนคำว่ารักชาติ แม่ชีอยากให้ทุกคนคิดดีทำดี เพราะถ้าคิดไม่ดี สิ่งไม่ดีก็จะไหลเข้าตัว เหมือนกับการปลูกพืช เลือกปลูกสิ่งที่ดีผลก็จะดี ปลูกข้าว ก็จะได้ข้าว แต่ถ้าเราปลูกหมามุ่ย ก็จะแพร่กระจายความเดือดร้อนไปได้อย่างรวดเร็ว จงเลือกเอาว่าจะปลูกข้าวที่สร้างคุณประโยชน์ได้หลายประการ หรือจะปลูกหมามุ่ยที่มีแต่จะสร้างความเดือดร้อน
แม่ชีมโนรา ยังได้พยากรณ์ ถึงสถานการณ์ในช่วงนี้ ว่า แม้เดือนมีนาคม จะมีความกระเพื่อมทางการเมือง แต่ก็จะผ่านพ้นไปได้ ตั้งแต่เดือนเมษายน ทุกอย่างจะดีขึ้น รัฐบาลก็อยู่ได้ เพราะมีผุ้บารมีอยู่หลายท่าน แต่ก็ถือว่าแม้จะได้รับชัยชนะก็จริงแต่ก็สะบักสบอมพอดู ผู้นำจะต้องตั้งจิตนิ่ง ไม่หวั่นไหวไปกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้มากนัก และอยากฝากถึงข้าราชการที่เป็นข้าฯ ของแผ่นดิน ขอให้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต