xs
xsm
sm
md
lg

“เจ๊สั่งลุย” เกณฑ์แดงหัวละ 5-7 ร้อย - ฮาร์ดคอร์ 3 จว.เหนือเข้ากรุงแล้ว-ต่างด้าวนัดพรุ่งนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ฮาร์ดคอร์ 3 จังหวัดภาคเหนือ ทั้งเชียงใหม่ 51-ลำพูน-เชียงราย จับรถไฟเข้ากรุงแล้ว สะพัดเครือข่าย “เจ๊” สั่งลุยเต็มที่ เกณฑ์คนร่วมม็อบหางแดง รวมทั้งคนต่างด้าว เม็ดเงินกระจายลงถึงแกนหลักแต่ละจังหวัดแล้วหัวละ 500-700 บาท ค่ารถต่างหาก ตั้งแต่ 4-5 พันบาท/คัน แต่บางจังหวัดเหลือพันห้า ตำรวจประเมินสายเหนือร่วม 5 หมื่น สวนทางมหาดไทย แต่ทุกสายเชื่องานนี้มีรุนแรง

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า หลังจากกลุ่มเสื้อแดง-รักเชียงใหม่ 51 รวมตัวกันที่สันป่าข่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีการรวบรวมเครือข่ายสายฮาร์ดคอร์ พวกนิยมความรุนแรง จากเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ขึ้นรถไฟเข้ากรุงเทพฯทันที ตั้งแต่ช่วงเย็นวันเดียวกัน ถึงกรุงเทพฯเช้าวันนี้ (8 มี.ค.) เพื่อร่วมฝึกซ้อมการปฏิบัติการกับเครือข่ายฮาร์ดคอร์จากจังหวัดต่างๆ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยการชุมนุม นปช.ที่จะมีขึ้นตั้งแต่ 12-14 มี.ค.53 ที่จะถึงนี้

นอกจากนี้ ยังมีรายงานของหน่วยข่าวในพื้นที่ แจ้งตรงกันหลายหน่วย ว่า เครือข่ายเสื้อแดงในเชียงใหม่ ยังนัดหมายคนต่างด้าวบางส่วนขึ้นรถเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ด้วย โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่า จะรวมตัวกันขึ้นรถที่หน้าอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ กลางเมืองเชียงใหม่ พรุ่งนี้ (9 มี.ค.) ล่าสุด ได้เปลี่ยนแปลงสถานที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถยืนยันจุดนัดหมายชัดเจนนัก คนกลุ่มนี้จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ แยกจากขบวนหลักของคนเสื้อแดง โดยจะใช้เส้นทางสายลี้-เถิน ในการเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงจุดตรวจ

ขณะเดียวกัน บรรดานักการเมือง-หัวคะแนนในเครือข่ายของ “เจ๊ใหญ่-เจ๊เล็ก” พรรคไทยรักไทยเดิม และพรรคพลังประชาชนในปัจจุบัน ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว ออกระดมคนเข้าร่วมชุมนุม โดยมีการจ่ายเงินผ่านถุงเงินหลักแต่ละจังหวัดแล้ว ในอัตรา 500-700 บาท/คน แต่เมื่อถึงปลายทางอาจจะถูกหักหัวคิว จนทำให้ค่าจ้างคนเข้าร่วมชุมนุมแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่แตกต่างกันออกไป

ส่วนที่ จ.เชียงราย มีรายงานว่า ขณะนี้เม็ดเงินก้อนใหญ่ ถูกส่งถึงมือบริษัทเบียร์ชื่อดังในพื้นที่ ซึ่งเป็น “ตัวจ่าย” สำคัญตั้งแต่ยุคไทยรักไทย จนถึงปัจจุบันด้วย และถือเป็น “สายตรง” ของนายใหญ่ และนักการเมืองใหญ่ในพื้นที่ แต่เบื้องต้นมีการคาดหมายกันว่า จะมีคนเดินทางเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ ประมาณ 300 คนเท่านั้น แม้ว่าขณะนี้จะมีคนลงชื่อทำบัตร นปช.แล้วกว่า 5 พันคนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม พื้นที่เชียงราย ก็ยังต้องจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้ทั้งนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง - พายัพ ปั้นเกตุ 2 แกนนำ นปช.ที่เข้ามาปลุกระดมคนในพื้นที่ตั้งแต่ 6 มี.ค.53 ที่ผ่านมา ยังคงปักหลักอยู่ในพื้นที่อยู่ และมีกำหนดเปิดเวทีอีกรอบที่ อ.แม่จัน ฐานใหญ่ของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ในวันที่ 9 มี.ค.53 นี้ ก่อนที่จะเปิดเวทีใหญ่อีกรอบในวันที่ 10 มี.ค.53

แต่สำหรับพะเยา เบื้องต้น มีการประเมินกันว่า จะมีคนเข้าร่วมประมาณ 200 คนเท่านั้น ว่ากันว่า ส่วนหนึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่าง “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ - อรุณี ชำนาญยา” 2 ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย จนถึงขั้นมีการปล่อยข่าวโจมตีซึ่งกันและกันในห้วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะกระแสข่าวที่ระบุว่า อรุณี กำลังย้ายเข้าพรรคประชาธิปัตย์

ไม่เพียงเท่านั้น ดูเหมือนในท้องที่พะเยา จะมีปัญหาเรื่อง “หัวคิว” หนักที่สุด เช่น กรณีการนำรถเข้าร่วมขบวนขนคนเข้ากรุงเทพฯนั้น ที่เชียงใหม่ มีการจ่ายกันที่ 5,000 บาท/คัน - เชียงราย เหลือไม่เกิน 4,000 บาท/คัน แต่ที่พะเยา กลับกำหนดจ่ายให้เพียง 1,500 บาท/คันเท่านั้น ทำให้อาจจะไม่ได้รับการตอบสนองจากมวลชนในพื้นที่มากเท่าที่คาดหวัง

ส่วนที่ จ.แพร่ ก็มีหัวคะแนนเข้าติดต่อประชาชนในเขต อ.สูงเม่น ลักษณะเดียวกันกับการหาเสียงเลือกตั้ง มีการชักชวนให้ไปร่วมกับ ส.ส.แพร่ ชุมนุมกับคนเสื้อแดงทั้งในจังหวัดแพร่ - กทม.โดยมีค่าตอบแทนวันละ 400 บาท/คน โดยมีรถบัสรับส่ง หรือถ้าใครต้องการเอารถไปเองก็สามารถทำได้ ส่วนกลุ่มข้าราชการในที่ว่าการอำเภอเด่นชัย และ สภ.เด่นชัย ที่สนใจร่วมกลุ่มกับเสื้อแดง จะได้รับสิทธิ์พิเศษ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปและร่วมเป็นการ์ด จะได้ค่าตอบแทนวันละ 1,000 บาท

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ให้ความสนใจที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมกว่า 400 คนแล้ว ขณะที่จังหวัดน่าน คาดว่า จะมีคนเข้าร่วมเพียง 300 คนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตำรวจ มีรายงานว่า ได้ประเมินกำลังคนเสื้อแดงจากภาคเหนือตอนบน เดินทางเข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้ มากถึง 50,000 คน

โดยกำลังคนสายเหนือตอนบน จะมุ่งหน้าเข้าไปสมทบกับภาคเหนือตอนล่าง - ภาคกลางตอนบน ที่นครสวรรค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ นายนาวิน บุญเศรษฐ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ผู้ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงภาคเหนือ และอดีตเลขานายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ระบุว่า จะออกเดินทางจากที่ตั้งแต่ละจุดเช้าวันที่ 12 มี.ค.2553 ไปรวมพลกันที่สนามกีฬากลางนครสวรรค์ เพื่อรวมตัวกับทีมของ ดร.ประแสง มงคลศิริ อดีต ส.ส.อุทัยธานี ที่จะนำคนเสื้อแดงภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนมาสมทบ ซึ่งคาดว่า มีไม่ต่ำกว่า 150,000 คนจะใช้รถกระบะ 1 คัน บรรทุกคน 15 คน ซึ่งจะต้องใช้รถกระบะ 10,000 คัน ก่อนจะใช้ฤกษ์เช้าตรู่เสาร์ที่ 13 มี.ค.2553

ทั้งนี้ หน่วยข่าวความมั่นคงหลายหน่วย วิเคราะห์ว่า ปัญหาเรื่องจำนวนของคนเสื้อแดงในการชุมนุมครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่ประเด็นที่ต้องจับตา ก็คือ เหตุแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ โดยมีข่าวลือมาตลอด แต่ยังไม่มีหน่วยไหนสามารถยืนยันชัดเจนได้เท่านั้น เพราะถ้าหากเกิดเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของมือที่ 3 หรือคนในเครือข่ายเสื้อแดงทำขึ้นเอง หรือฝ่ายรัฐบาลกระทำขึ้นมา ก็จะทำให้สถานการณ์บานปลายจนไม่สามารถควบคุมได้แน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น