ตาก - ขนส่งสินค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี ผ่านลำน้ำเมยกระทบ หลังน้ำแห้งขอด เรือลำเลียงสินค้าต้องหาร่องน้ำลึกใหม่-ใช้คนลากเรือแทน คาดอีก 1 เดือนต้องใช้คนงานแบกของข้ามอย่างเดียว
รายงานข่าวจากบริเวนชายแดนไทย-พม่า ริมแม่น้ำเมย อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า ผู้ประกอบการท่าเรือขนส่งสินค้าริมแม่น้ำเมย ตามท่าเรือขนส่งสินค้าต่างๆ กว่า 10 แห่ง ในเขต ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด เริ่มได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบจากความแห้งแล้งเนื่องจากขณะนี้แม่น้ำเมยเริ่มตื้นเขิน ระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ ทำให้การขนส่งสินค้าทางเรือหางยาวเริ่มมีปัญหาจากน้ำที่ตื้นเขิน ท้องเรือเริ่มติดโขดหินกลางแม่น้ำ ต้องปรับเปลี่ยนหาร่องน้ำที่ลึกกว่าเดิม ใช้วิธีแล่นเรืออ้อมเส้นทางบางจุด เพื่อให้เรือสามารถข้ามไปส่งและรับสินค้าจากฝั่งพม่าได้ ทำให้ต้องเสียเวลาและเพิ่มต้นทุนในการแล่นเรือ และบางครั้งต้องใช้วิธีให้คนลากเรือข้ามฝั่งแทน
ผู้ประกอบการท่าเรือขนส่งสินค้ารายหนึ่ง กล่าวว่า อีกไม่เกิน 1 เดือนข้างหน้า จะมีปัญหาน้ำเมยตื้นเขินแห้งขอดในระดับต่ำ ซึ่งเรือไม่สามารถวิ่งรับ-ส่งสินค้าข้ามแดนได้ ต้องใช้วิธีใช้แรงงานคนแบกขนสินค้าข้ามแม่น้ำเมย เสียเวลาและต้นทุนเพิ่มไปอีกเท่าตัว
ซึ่งที่จริงแล้วพ่อค้าผู้ประกอบการท่าเรือสินค้า เคยคิดที่จะหาวิธีการสร้างสะพานชั่วคราวในช่วงฤดูแล้งน้ำแห้งเพื่อใช้รถหรือวิธีการอื่นๆข้ามไปส่งสินค้าและรับสินค้า แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากติดปัญหากฎหมายระหว่างประเทศ ที่ไม่สามารถสร้างสะพานเชื่อมต่อใดๆได้ สะพานที่จะใช้ได้มีแห่งเดียวในขณะนี้คือสะพานมิตรภาพไทย-พม่า
ดังนั้น ในฤดูแล้งแม่น้ำเมยแห้งขอด การขนส่งสินค้าเมื่อไม่สามารถใช้เรือได้ ก็ต้องใช้แรงงานคนแบกขนสินค้าข้ามแดนอย่างเดียว ซึ่งจะเสียเวลาในการขนส่งสินค้าและเพิ่มรายจ่ายค่าแรงงาน