ตาก - พม่าดันปัญหาสร้างอิฐกันตลิ่งน้ำเมยพังขึ้นชั้นเจรจาระหว่างประเทศ หลังทำบันทึกถึง TBCไทยแล้วไร้ผล ส่งสัญญาณจำกัดรถบรรทุกสินค้าจากฝั่งไทยข้ามเข้าเมียวดีได้ชั่วโมงละคัน ส่อเพิ่มระดับถึงขั้นปิดด่านกดดันไทย
นายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงความคืบหน้าปัญหาข้อพิพาทในโครงการก่ออิฐเรียงแนวป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเมย ฝั่งไทยบริเวณ ท่าเรือที่ 10 หมู่ 3 บ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตาก ได้ดำเนินการ แต่ถูกคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือ TBC ฝ่ายพม่า ทำหนังสือบันทึกช่วยจำเพื่อประท้วงผ่าน TBC ไทย เพื่อให้ระงับการก่อสร้างช่วยคราวและเจรจากัน ว่า ล่าสุดปัญหายังไม่ได้ข้อยุติ
ขณะนี้ฝ่ายพม่าได้แจ้งว่าได้เสนอเรื่องนี้ รวมทั้งข้อหารือของปัญหานี้ ไปยังส่วนกลางของพม่าเพื่อให้มีการเจรจาในระดับชาติโดยกระทรวงการต่างประเทศ เนื่องจากในระดับ TBC เมียวดี ของพม่า ไม่สามารถตัดสินใจได้ ซึ่งตนเองได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดตากทราบแล้ว
“ผมทราบว่า ฝ่ายพม่าต้องการให้เราปรับเปลี่ยนรูปแบบการถมดินเรียงหิน และเรียงอิฐยาแนวเฉพาะริมตลิ่งฝั่งไทย ห้ามรุกล้ำไปกลางแม่น้ำเมยโดยเด็ดขาด โดยพม่าได้เคยแจ้งเตือนมาหลายครั้งแล้วในช่วงการก่อสร้างระยะแรกๆ แต่ผู้รับเหมา ยังดำเนินการต่อ ทำให้ฝ่ายพม่า ทำบันทึกช่วยจำถึง TBC ไทย และรายงานเรื่องไปยังส่วนกลาง จนปัญหาที่เคยอยู่ในระดับท้องถิ่นหรือ TBC ได้ยกระดับไปสู่ปัญหาระดับประเทศแล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศต้องเจรจากัน อย่างไรก็ตามผมกำลังพยายามให้ในระดับท้องถิ่นเจรจาพูดคุยกันอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็ววัน ซึ่งอาจจะก่อสร้างในเขตแนวตลิ่งฝั่งไทย” นายอำเภอแม่สอด กล่าว
นายกิตติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาพม่าได้ส่งสัญญาณ แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจกรณีดังกล่าว ด้วยการกำหนดเงื่อนไขเวลาของรถบรรทุกส่งสินค้าผ่านแดนจากด่านแม่สอดไปยังจังหวัดเมียวดี ได้ชั่วโมงละ 1 คันเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า มีความเป็นไปได้ที่พม่าอาจจะปิดชายแดนเมียวดี หากไทยยังไม่แก้ไข ปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว เริ่มจากการกำหนดเวลาในการขนส่งสินค้าข้ามแดน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และหากไทยยังคงยืนยันก่อสร้างโดยการขุดและวางหินไปกลางแม่น้ำ อาจจะถึงขั้นปิดชายแดนก็เป็นได้