ตาก - ผู้ว่าฯตากสั่งชะลอการก่อสร้างแนวเรียงหินป้องกันแม่น้ำเมย กัดเซาะริมตลิ่ง หลัง TBC พม่า ทำบันทึกช่วยจำ ประท้วงไทย เพื่อให้เปิดเจรจารักษาความสัมพันธ์ ไทย-พม่า ก่อนที่จะดำเนินการต่อ
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น TBC (แม่สอด-เมียวดี) ได้ทำบันทึกช่วยจำ เพื่อประท้วงฝ่ายไทยที่กำลังดำเนินโครงการก่อสร้างอิฐเรียงแนวป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเมย บริเวณ หมู่ 3 บ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยพม่าแจ้งว่ามีการขุดดินริมตลิ่งรุกล้ำร่องน้ำ และนายกิตติศักดิ์ โตมรศักดิ์ นายอำเภอแม่สอด ได้ทำหนังสือแจ้งให้ทราบเพื่อขอให้ระงับการก่อสร้างชั่วคราวเพื่อเจรจาทำความเข้าใจกัน ว่า ตนได้ให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตาก แจ้งให้กับผู้ปฎิบัติได้ระงับการก่อสร้างชั่วคราว เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างไทย-พม่า แล้ว และจะเร่งเปิดเจรจาเพื่อทำความเข้าใจ ถึงแบบก่อสร้างและหลักฐานข้อมูลต่างๆในการดำเนินโครงการ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจซึ่งกันและกัน ก่อนที่จะดำเนินการต่อ
พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น TBC ฝ่ายไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเป็นปัญหาใหญ่แต่อย่างใด พม่าเพียงทำบันทึกช่วยจำเพื่อขอให้เจรจากันในระหว่างดำเนินโครงการ ซึ่งทางสำนักงานโยธาธิการฯ ก็ควรหาหลักฐานรูปถ่ายเดิมก่อนที่จะมีการขุดแนวตลิ่ง รวมทั้งข้อมูลเดิมก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างเพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้มีการรุกล้ำแม่น้ำ ซึ่งจากการดูสภาพแล้ว เป็นเพียงการขุดดินจากแนวตลิ่งเดิมเข้ามาและนำอิฐไปเรียง พม่าก็คงจะเข้าใจดีหากเราไปชี้แจงด้วยหลักฐานที่มีอยู่
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการดังกล่าว เป็นโครงการของกรมโยธาธิการ โดยมอบหมายให้โยธาธิการจังหวัดตาก ดำเนินการว่าจ้างผู้รับเหมาไปดำเนินการด้วยงบประมาณกว่า 12-13 ล้านบาท ความยาวประมาณ 600 เมตร เพื่อป้องไม่ให้มีปัญหาเรื่องเขตแดนกับฝ่ายพม่า โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน กระแสน้ำในแม่น้ำเมย มักกัดเซาะตลิ่งฝั่ง ทำให้ไทย กับ พม่า มีปัญหาเขตแดนมาตลอด และไม่สามารถแก้ปัญหาได้หลายแห่ง เช่นที่ บริเวณเกาะมะนาว บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด และที่พื้นที่พิพาทใกล้วัดพระธาตุคอกช้างเผือก ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นต้น