ชาวเสม็ดเหนือฮือไล่ ผอ.โรงเรียนหลังเมินให้มวลชนมีส่วนร่วม

ฉะเชิงเทรา – ชาวบ้านเสม็ดเหนือ ฉะเชิงเทรา กว่า 300 คน ฮือชุมนุมขับไล่ ผอ.โรงเรียน ซี 9 หลังเมินให้มวลชนมีส่วนร่วมดูแลพัฒนา แฉพฤติกรรมเช้าชามเย็นชาม ไม่รับผิดชอบต่อคำพูด พลิกลิ้นกลับไปมาเป็นสำรวยลืมคำ ทั้งยังท้าทายชาวบ้าน คณะกรรมการสถานศึกษาให้ย้ายออก ขณะ ผอ.เขตพื้นที่เข้าหย่าศึก ก่อนยอมโยกออกให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตฯ ทำชาวบ้านพึงพอใจก่อนเลิกชุมนุม

วันนี้ (4 มี.ค.) เวลา 11.00 น.ที่ศาลาการเปรียญวัดเสม็ดเหนือ พื้นที่ ม.1 ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านพร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษา เดินทางมารวมตัวชุมนุม เรียกร้องให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา โยกย้ายนายมนตรี บุญธรรม อายุ 52 ปี ผอ.โรงเรียนวัดเสม็ดเหนือ (ชิดประชาสรรค์) หลังจากไม่พอใจที่ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ที่ผ่านมา นายมนตรี ได้ย้ายเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน แล้ว เกิดปัญหาความขัดแย้งกับชาวบ้าน คนในชุมชน

รวมถึงครูอาจารย์ภายในโรงเรียนที่ตั้งใจทำงานช่วยบ่มเพาะสั่งสอนอบรมลูกหลาน ให้แก่ชาวบ้าน ต่างพากันย้ายหนี และลาออกไปจากโรงเรียน โดย มี นายวีระ สุเมธาพันธุ์ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา เดินทางมาร่วมรับฟังปัญหาจากชาวบ้าน

นางพเยาว์ ศิริพงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 30/2 ม.1 ต.เสม็ดเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของโรงเรียน เปิดเผยว่า สาเหตุที่กลุ่มชาวบ้าน พร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษาทั้งหมด 11 คน ได้เดินทางมารวมตัวชุมนุมเพื่อขับไล่ ผอ.โรงเรียนในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากคนในชุมชนต่างสุดที่จะทนต่อพฤติกรรมของ นายมนตรี ที่ชอบทำงานเอาแต่หน้า ไม่ยอมดูแลเอาใจใส่เด็กนักเรียน ซึ่งเป็นบุตรหลานของคนในพื้นที่ ปล่อยปละละเลยจนนำไปสู่การติดยาเสพติด พูดจาไม่รับผิดชอบต่อคำพูดกลับกรอกไปมา ไม่รับฟังความคิดเห็นจากใคร ทั้งคนในชุมชน และครูอาจารย์ภายในโรงเรียน

จนทำให้มีครูอาจารย์ คนเก่าแก่ที่เคยตั้งใจทำการสอนบุตรหลาน และประจำอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้มานาน ต่างพากันท้อถอย จากการถูกกลั่นแกล้ง ได้รีบเออรี่รีไทน์ ลาออกไปจากโรงเรียน ก่อนที่จะถึงวัยเกษียณอายุราชการ รวมทั้งยังมีครู อาจารย์ พนักงานลูกจ้างราชการของโรงเรียน ต่างพากันขอย้ายออก และลาออกไปตามกันอีกหลายคน

ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี หลังจากนายมนตรี ได้ย้ายมาจากโรงเรียนบ้านห้วยกระปอก ใน อ.ท่าตะเกียบ เข้ามาเป็น ผอ.ที่นี่ ไม่เคยที่จะสร้างสรรค์พัฒนาโรงเรียนไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้โรงเรียนที่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างขึ้นมาตกต่ำลงไปอย่างมาก “แรกๆ เมื่อเข้ามารับตำแหน่งๆ เขาก็มาทำงานตั้งแต่เช้า แต่ต่อมา เขาก็เริ่มไม่ให้ความสนใจ และเอาใจใส่โรงเรียน ด้วยการเข้ามาทำงานสาย และกลับบ้านไว โดยที่เขาจะเดินทางกลับออกจากโรงเรียนไป ตั้งแต่เวลา 14.00 น.เกือบทุกวัน”

นอกจากนี้ เมื่อพบพฤติกรรมของนักเรียนที่เปลี่ยนไปในทางเสื่อมเสีย และติดยาเสพติด ครูในโรงเรียนได้รายงานให้ทราบ กลับได้รับคำตอบจาก ผอ.ผู้บริหารโรงเรียน ว่า “ไม่ต้องไปสนใจมาก ปล่อยๆ ไปบ้างก็ได้ ผู้ปกครองของเด็กเองมันยังไม่สนใจที่จะดูแลเอาใจใส่ลูกหลานของตนเองเลย” ซึ่งเป็นคำพูดที่ชาวบ้านยอมรับไม่ได้ ผู้ปกครองบางรายได้ย้ายลูกหลานหนีไปเรียนที่อื่น จนทำให้โรงเรียนตกต่ำลงอย่างมากถึงขีดสุด จึงได้พยายามรวมตัวกันที่จะหาทางขับไล่ ผอ.คนนี้ ออกไปให้พ้นจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาเขายังได้ท้าทายชาวบ้าน และคณะกรรมการสถานศึกษาอีกว่า “เขาเป็น ผอ.ระดับ ซี 9 หากใครย้ายเขาได้เขาจะยอมก้มลงกราบเท้า

ด้าน นายวีระ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยได้รับทราบปัญหาการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวด้วยวาจาบ้างแล้ว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากความไม่เข้าใจกันระหว่าง ผอ.โรงเรียนกับชาวบ้าน เมื่อรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว นายมนตรี เขาก็ไม่ได้กระทำความผิดจนเกิดความเสียหายร้ายแรง หรือมีการฉ้อโกงทุจริตแต่อย่างใด ไม่ได้เป็นคดีความเกิดขึ้น แต่เมื่อชาวบ้านคนในชุมชนไม่ต้องการที่จะให้เขาอยู่ ก็จะหาทางให้ย้ายไปอยู่ที่อื่น โดยจะขอนำกลับไปประชุมร่วมกันกับคณะกรรมการเขต อีกครั้ง เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อไป

โดยที่ในเบื้องต้นขณะนี้ จะได้ให้นายมนตรี ออกจากพื้นที่ไปก่อน โดยจะให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 หลังจากชาวบ้านไม่ยินยอมที่จะให้อยู่ในพื้นที่อีกต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงเรียนวัดเสม็ดเหนือแห่งนี้ เป็นโรงเรียนขยายโอกาสในชุมชน เปิดสอนตั้งแต่ระดับ ชั้นอนุบาล จนถึงชั้น ม.3 มีจำนวนนักเรียนกว่า 500 คน โดยในการชุมนุมในวันนี้ เป็นไปอย่างสงบ โดยได้มีตัวแทนชาวบ้าน คณะกรรมการสถานศึกษา ตั้งวงเสวนาแบบโต๊ะกลม ร่วมกับคณะกรรมการจากเขตพื้นที่การศึกษา วัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวถึงปัญหา และโจมตีการทำงานของนายมนตรี พร้อมทั้งยืนกรานที่จะให้ย้าย ผอ.โรงเรียน ออกไปให้พ้นจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด โดยที่ นายมนตรี ผู้ถูกร้องเรียนไม่ได้เดินทางมาร่วมรับฟังด้วย

ทางด้าน ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ได้รับปากกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่าจะให้ นายมนตรี ออกจากพื้นที่ไปช่วยราชการยังสำนักงานเขตฯ ในทันทีนับจากวันนี้เป็นต้นไป กลุ่มชาวบ้านจึงได้ยอมสลายการชุมนุมกลับไป