ตราด -ธ.ก.ส.ตราด ทำสัญญากับชาวนา เรื่องประกันราคาข้าวแล้ว คาดไม่เกิน 100 รายขณะที่ หนี้นอกระบบ 5 อำเภอ รวม 38 ล้าน ปล่อยเงินซื้อแล้ว 20 ราย
จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายการประกันข้าวให้แก่เกษตรกร เพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน จ.ตราดก็ได้ดำเนินงานตามนโยบาย ซึ่งมี นายมานพ ทองศรีสมบูรณ์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร สาขาตราด (ธ.ก.ส.) ได้กล่าวถึงการประกันข้าว ว่า ตอนนี้ได้ดำเนินการมาถึงในรอบที่ 2 แล้ว และยังได้มีการทำประชาคมร่วมกับสำนักงานการเกษตร อ.เมืองตราด ตั้งแต่เดือนมกราคมคนที่ผ่านมา และเริ่มทำสัญญาวันตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม เป็นต้นมา
สำหรับประเภทของข้าวและปริมาณที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้นั้น มี 3 ประเภท คือ ข้าวเลือกปทุมธานี 1 ราคา 11,000 บาท/ตัน ซึ่งไม่เกินครัวเรือนละ 25 ตัน, ข้าวเจ้านาปี ราคา 10,000 บาท/ตัน และ ข้าวเหนียว ราคา 9,500 บาท/ตัน ซึ่งเกษตรกรที่เข้าโครงการไม่น่าเกิน 100 ราย เนื่องจากชาวตราดส่วนใหญ่ทำนาปี
ส่วนแนวโน้มของการที่เกษตรจะหันมาปลูกข้าวมากขึ้น นายมานพ กล่าวว่า จ.ตราด มีพื้นที่สำหรับปลูกข้าวอยู่ประมาณ 18,000 ไร่เศษ และยังไม่ว่างที่ไม่มีการทำเกษตรกรรมอยู่ ดังนั้นหากข้าวมีราคาสูงขึ้น เชื่อว่าเกษตรต้องหันมาปลูกข้าวเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะ จ.ตราด เป็นจังหวัดอุดมสมบูรณ์และได้เปรียบข้าวที่ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเพลี้ยกระโดด
นายมานพ กล่าวถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ธ.ก.ส.ได้เปิดให้ยื่นเรื่องไปแล้ว 2 ครั้ง คือ เดือนธันวาคม และเดือนมกราคม ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 333 ราย โดยครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแหลมงอบ ที่ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว อำเภอเมือง อำเภอคลองใหญ่ อำเภอเกาะช้าง และอำเภอเกาะกูด ยอดรวมหนี้สินทั้งสิ้น 38 ล้านบาท
ในส่วนของการดำเนินงานเจรจาหนี้สิน ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 100 ราย และผู้ที่มีหนี้ไม่เกิน 50,000 บาท ทาง ธ.ก.ส.ได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วจำนวน 20 ราย ประมาณ 9 แสนบาท ส่วนเจ้าหนี้นั้นก็ให้ความรวมมือกับทางธนาคารเป็นอย่างดี ในการลดหย่อน ผ่อนผัน และคาดว่า จะเสร็จสิ้นได้ทั้งหมดในเดือนพฤษภาคมนี้
จากการที่รัฐบาลได้มีนโยบายการประกันข้าวให้แก่เกษตรกร เพื่อแก้ปัญหาหนี้สิน จ.ตราดก็ได้ดำเนินงานตามนโยบาย ซึ่งมี นายมานพ ทองศรีสมบูรณ์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร สาขาตราด (ธ.ก.ส.) ได้กล่าวถึงการประกันข้าว ว่า ตอนนี้ได้ดำเนินการมาถึงในรอบที่ 2 แล้ว และยังได้มีการทำประชาคมร่วมกับสำนักงานการเกษตร อ.เมืองตราด ตั้งแต่เดือนมกราคมคนที่ผ่านมา และเริ่มทำสัญญาวันตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม เป็นต้นมา
สำหรับประเภทของข้าวและปริมาณที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้นั้น มี 3 ประเภท คือ ข้าวเลือกปทุมธานี 1 ราคา 11,000 บาท/ตัน ซึ่งไม่เกินครัวเรือนละ 25 ตัน, ข้าวเจ้านาปี ราคา 10,000 บาท/ตัน และ ข้าวเหนียว ราคา 9,500 บาท/ตัน ซึ่งเกษตรกรที่เข้าโครงการไม่น่าเกิน 100 ราย เนื่องจากชาวตราดส่วนใหญ่ทำนาปี
ส่วนแนวโน้มของการที่เกษตรจะหันมาปลูกข้าวมากขึ้น นายมานพ กล่าวว่า จ.ตราด มีพื้นที่สำหรับปลูกข้าวอยู่ประมาณ 18,000 ไร่เศษ และยังไม่ว่างที่ไม่มีการทำเกษตรกรรมอยู่ ดังนั้นหากข้าวมีราคาสูงขึ้น เชื่อว่าเกษตรต้องหันมาปลูกข้าวเพิ่มขึ้นแน่นอน เพราะ จ.ตราด เป็นจังหวัดอุดมสมบูรณ์และได้เปรียบข้าวที่ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเพลี้ยกระโดด
นายมานพ กล่าวถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ธ.ก.ส.ได้เปิดให้ยื่นเรื่องไปแล้ว 2 ครั้ง คือ เดือนธันวาคม และเดือนมกราคม ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 333 ราย โดยครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแหลมงอบ ที่ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว อำเภอเมือง อำเภอคลองใหญ่ อำเภอเกาะช้าง และอำเภอเกาะกูด ยอดรวมหนี้สินทั้งสิ้น 38 ล้านบาท
ในส่วนของการดำเนินงานเจรจาหนี้สิน ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 100 ราย และผู้ที่มีหนี้ไม่เกิน 50,000 บาท ทาง ธ.ก.ส.ได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้วจำนวน 20 ราย ประมาณ 9 แสนบาท ส่วนเจ้าหนี้นั้นก็ให้ความรวมมือกับทางธนาคารเป็นอย่างดี ในการลดหย่อน ผ่อนผัน และคาดว่า จะเสร็จสิ้นได้ทั้งหมดในเดือนพฤษภาคมนี้