ตรัง - ผลจากนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบ ในช่วงเดือนธันวาคม 2552 ที่ผ่านมาพบว่า มีชาวตรังมาลงทะเบียนทั้งหมด 9,082 ราย รวมยอดเงินทั้งหมด 979.31 ล้านบาท
วันนี้ (11 ม.ค.) นายทวีศักดิ์ ยิ้มตระกูล คลังจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ตามที่ทางรัฐบาลได้มีนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ซึ่งถือเป็นภารกิจจำเป็นที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน และโอนหนี้นอกระบบเข้ามาเป็นหนี้ในระบบ โดยเปิดโอกาสให้แก่ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบของสถาบันการเงินของรัฐได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และเพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอ สำหรับรายจ่ายที่จำเป็นและมีเงินเหลือออมในครัวเรือนมากขึ้น
ทั้งนี้ โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ยังถือเป็นโครงการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพของผู้มีปัญหาหนี้สิน ให้มีความเข้มแข็งและสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง มีการดำรงชีพภายใต้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และส่งเสริมกระตุ้นให้ประชาชนมีการออมเงินเพื่อรักษาวินัยทางการเงิน เพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญของครอบครัว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเปิดโครงการให้ประชาชนผู้มีหนี้นอกระบบมาขึ้นทะเบียน ในช่วงระหว่างวันที่ 1-30 ธันวาคม 2552 หรือเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ในส่วนของจังหวัดตรัง ปรากฎว่า มีผู้มาลงทะเบียน รวมทั้งหมด 9,082 ราย รวมยอดเงินทั้งหมด 979.31 ล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธ.ก.ส. จำนวน 5,320 ราย รวมยอดเงิน 572.6 ล้านบาท และธนาคารออมสิน จำนวน 3,768 ราย รวมยอดเงิน 406.71 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรทำสวน โดยมีเป้าหมายที่จะนำเงินที่ได้จากทางรัฐบาล เพื่อล้างหนี้นอกระบบที่ได้ไปกู้เอาไว้ก่อนหน้านั้น มูลค่าตั้งแต่ 1-2 แสนบาท
ในเบื้องต้นคลังจังหวัดตรังเชื่อว่า ยังมีประชาชนชาวตรังอีกหลายคนที่ยังมีความเข้าใจผิด ต่อนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนในครั้งนี้ จึงอยากให้ลูกหนี้นอกระบบทุกคนรีบมาลงทะเบียนเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด เพราะขณะนี้ทางรัฐบาลได้ขยายเวลาออกไปอีกระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งลูกหนี้นอกระบบรายใดที่ยังไม่มีความเข้าใจต่อนโยบาย สามารถสอบถามรายละเอียด และปรึกษาหารือกับเจ้าหน้าที่ธนาคารทั้ง 2 แห่งได้
