เชียงราย – ตำรวจเชียงรายโชว์ผลงานทลายแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติช่วย 3 สาวลาวพ้นนรกหวุดหวิด
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจาก พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย สืบทราบว่ามีการเคลื่อนไหวของขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.เชียงราย สืบข่าวและเฝ้าระวัง ต่อมา พ.ต.ต.ทิฎิกร เนื่องหล้า สารวัตรกลุ่มงานสืบสวน ภ.เชียงราย ได้รับแจ้งจาก นางสุปราณี สมนา นักสังคมสงเคราะห์สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย ว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองว่ามีหญิงสาวหลายคนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์คุมตัวไปขังเอาไว้ภายในห้องพักของทาวน์เฮาส์เลขที่ 417/6 ชุมชนดอยเขาควาย ต.รอบเวียง อ.เมือง จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาล จ.เชียงราย เลขที่ 126/2553 เพื่อเข้าไปตรวจค้น
หลังได้รับอนุมัติหมายศาล เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจสอบพบเป็นทาวน์เฮาส์ขนาดสองชั้นครึ่ง 1 คูหา เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2553 พบมีรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ชธ-9139 กทม.จอดอยู่ 1 คัน เมื่อเรียกหาเจ้าของไม่มีใครมาแสดงตน เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีการปีนหลังคาขึ้นทางหน้าต่างชั้นสอง แล้วงัดเหล็กดัดของหน้าต่างเข้าไป
ปรากฏว่า ภายในห้องพักของทาวน์เฮาส์มีหญิงสาวชาวลาว 3 คน แต่ละคนมีอายุ 16 ปีเท่ากัน สภาพมีอาการตื่นกลัว เพราะถูกขังอยู่ภายในห้อง ที่ปิดกุญแจทุกด้านเอาไว้อย่างมิดชิด
สอบสวนหญิงสาวทั้งหมดทราบว่า เป็นชาวลาวอาศัยอยู่ที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ตรงข้าม อ.เชียงของ จ.เชียงราย แต่เมื่อราว 1 สัปดาห์ก่อนมีชายวัยกลางคน คนหนึ่งอ้างว่าชื่อ นายอาฉี สีวัง เป็นคนไทยข้ามไปหาแล้วบอกว่า หาหญิงสาวไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทั้งหมดจึงสมัครจะไปทำงานด้วย
แต่เมื่อเข้าเขตไทย ชายคนดังกล่าวพร้อมพวกอีกหลายคนได้ข่มขู่ และพาไปกักขังเอาไว้ที่ห้องพักแห่งนี้
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือและมอบให้ นางสุปราณี นำตัวไปทำการฟื้นฟูสภาพจิตใจ พร้อมนำไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อสอบสวนขยายผลไปถึงกลุ่มชายดังกล่าวต่อไป
พ.ต.อ.ณรงค์ วงษ์สามี รอง ผบก.ภ.เชียงราย เปิดเผยว่า พฤติกรรมของชายฉกรรจ์ทั้งหมดอยู่ในรูปของขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ทำกันหลายคน และทำกันอย่างเป็นขั้นตอนตั้งแต่ในประเทศเพื่อนบ้าน การเดินทาง-การจัดหาห้องพักสำหรับคุมขัง และเชื่อว่า จะนำไปยังกรุงเทพฯ ต่อไป
ทั้งนี้ เครือข่ายของขบวนการค้ามนุษย์ มักจะไปหลอกหญิงสาวในประเทศเพื่อนบ้านว่าจะพาไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะต้องไปทำงานอะไร
แต่จากพฤติกรรมเช่นนี้จึงกำลังอยู่ระหว่างติดตามหาตัวเจ้าของทาวน์เฮาส์และรถยนต์ที่จอดหน้าห้องพัก เพื่อทำการสอบปากคำว่า เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้แจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และนำพาบุคคลต่างด้าวเข้าเมืองโดยไม่ได้อนุญาตไว้ก่อน ก่อนจะขยายผลไปหาขบวนการทั้งหมดต่อไป
ขณะที่ นางสุปราณี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทราบว่า พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้เป็นการล่อลวงพาหญิงสาวไปทำงานที่ไม่พึงประสงค์ และเนื่องจากเป็นหญิงสาวที่มีอายุน้อยจึงเข้าข่ายฐานความผิดหลอกลวงหญิงสาวอายุไม่ถึง 18 ปี กักขังหน่วงเหนี่ยวไปพร้อมๆ กันด้วย
สำหรับหญิงชาวลาวทั้งหมดยืนยันว่าจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจเพื่อให้กลับคืนภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยต่อไป
