xs
xsm
sm
md
lg

สั่งให้ออก 3 นายตำรวจละเว้นหน้าที่ปล่อยผู้ต้องหาปลดโซ่ตรวจหนี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สกลนคร-นักโทษคดียาเสพติด เสาะโซ่ตรวนหนีศาลลอยนวล รอง ผบช.ภาค 4 รุดตรวจขอเวลา 3 วันจับได้แน่ สั่งให้ออกตำรวจ 3 นายฐานผิดวินัยร้ายแรงละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สุพจน์ นาสถิตย์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสกลนครได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้ายหลบหนีจากห้องควบคุมจำเลยของศาลจังหวัดสกลนครจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองสกลนคร , พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร โดยพบว่าที่บริเวณห้องน้ำในห้องควบคุมจำเลยซึ่งอยู่ใต้ถุนศาลหลังใหม่ ผู้ต้องหาได้ทิ้งโซ่ตรวน และชุดจำเลยทิ้งไว้บริเวณห้องน้ำ

จากการสอบสวน ด.ต.วิชัย ยินดีสุข ผบ.หมู่ (ป) สภ.เมืองสกลนคร ด.ต.วัฒนศิลป์ ผายวงษา ผบ.หมู่ ( ป) สภ.เมืองสกลนคร และด.ต.สมชาย ฉันทะพจน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหาและรักษาความปลอดภัยภายในอาคารศาล ทราบว่า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2553 เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายได้ควบคุมนายพูลศักดิ์ เอกสะเพ็ง และนายขรรชัย บุญเพ็ง ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นนักโทษในคดียาเสพพติด และเพื่อนผู้ต้องหาอีก 7 คนจากเรือนจำจังหวัดสกลนครเพื่อมาฟังคำพิพากษาคดีที่ศาลจังหวัดสกลนคร

โดยทั้ง 2 รายได้เข้าฟังคำพิพากษาคดีที่ห้องพิจารณาคดีที่ 9 ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษทั้ง 2 รายคือจำคุก 11 ปี 3 เดือน ปรับจำนวน 1.2 ล้านบาท

ด.ต.วิชัย ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด กล่าวว่า ในเวลา 11.00 น. หลังจากที่พวกตนได้นำนักโทษทั้ง 2 คนออกมาจากห้องพิจารณาคดีได้นำตัวมาลงบันทึกควบคุมจำเลยที่โต๊ะหน้าห้องพักพร้อมปล่อยจำเลยเข้าห้องพัก โดยทราบว่า มีภรรยาและบุตรของนายพูลศักดิ์ เอกสะเพ็งมารอพบอยู่ก่อนแล้ว หลังจากนั้นตนและเพื่อนได้ออกไปรับประทานอาหารเนื่องจากเป็นช่วงเที่ยงวัน ซึ่งเป็นร้านอาหารภายในบริเวณศาล

หลังจากกว่า 1 ชั่วโมงตนได้เดินทางมาที่ห้องห้องพักเพื่อจะนำตัวผู้ต้องหาไปยังห้องควบคุมเพื่อรอนำขึ้นรถกลับไปยังเรือนจำจังหวัดสกลนคร แต่ปรากฎว่า นายพูลศักดิ์ ได้หายไปจากห้องพัก ยังเหลือโซ่ตรวนทิ้งไว้ที่บริเวณห้องน้ำของห้องพักจำเลย

พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผบก.ตร.ภ.จว.สกลนคร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นาย ถือว่าประมาทเลินเล่อและละทิ้งหน้าที่และถือว่าเป็นการกระผิดวินัยอย่างร้ายแรง และได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยที่เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ควบคุมดูแล ผู้ต้องหาที่ต้องคุมขังตามอำนาจศาล กระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้ที่อยู่ในระหว่างคุมขังนั้น หลุดพ้นไปจากการคุมขังไป ตามมาตรา 205 และเป็นเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157 โดยจะรวบรวมผลการสอบสวนเสนอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจิตในภาครัฐ (ปปท.) ต่อไป

ส่วนการติดตาม ตนได้จัดตั้งชุดไล่ล่าและติดตามแหล่งกบดาน ซึ่งอาจจะหลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครพนม ซึ่งนักโทษรายนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดสกลนครจับกุมได้เมื่อวันที่ 18 ก.ย.2552 พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 96 กิโลกรัม โดยมีเครือข่ายโยงในการนำส่งกัญชาในแถบภาคตะวันออก ซึ่งจะมีจุดรับส่งขอบนเทือกเขาภูพาน

ทางด้าน พล.ต.ต.อรรถกฤษ ธารีฉัตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจในการการวางกำลังออกสืบสวนหาแหล่งกบดาน พร้อมเปิดเผยว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งทาง ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ทางตร.ภ.จว.สกลนครล่าตัวมาให้ได้ภายใน 3 วัน

โดยเฉพาะเหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ซึ่งทั้งหมดมีจำนวน 5 นาย ซึ่งถือว่าเป็นการผิดวินัยร้ายแรง ให้ออกไว้ก่อน 3 นาย และอีก 2 นายได้ตั้งการสอบสวนข้อเท็จจริง

ส่วนการที่มีผู้หญิงและบุตรและบิดาของนักโทษเข้าไปในเขตควบคุมและห้องพักของนักโทษของทางศาลถือว่าเป็นการละเมิดศาล ที่สำคัญเข้าไปอยู่ในห้องพักดังกล่าวได้อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น