หนองคาย-หนองคายร้อนจัดอุณหภูมิเกือบ 40 องศา ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่น่าเป็นห่วง ระดับน้ำโขงใกล้ถึงจุดต่ำสุดในรอบ 50 ปี วัดระดับน้ำเหลือแค่ 0.34 เมตร พืชผลขาดน้ำเริ่มเหี่ยวเฉา ด้าน อบจ.หนองคาย เร่งขุดบ่อน้ำซึมให้เกษตรกรใช้รดพืชผักก่อนเสียหายหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่จังหวัดหนองคาย วันนี้(3 มี.ค.)อากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาหนองคาย วัดอุณหภูมิสูงสุดที่ 39 องศาเซลเซียส และยังแจ้งว่าอาจมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมกระโชกแรงบางแห่ง ซึ่งในระหว่างวันที่ 3-7 มี.ค.นี้ อาจมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
จึงได้แจ้งเตือนเกษตรกรให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากพายุฤดูร้อนทั้งพืชผลทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง
ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดหนองคาย เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤต ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ วัดได้ 0.34 เมตร เฉลี่ยปริมาณน้ำโขงลดลงวันละ 1-2 ซม. เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติปริมาณน้ำโขงเมื่อเดือนเมษายน ปี 2538 วัดได้ 0.33 ซ.ม. เป็นสถิติต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี จนสามารถมองเห็นตอม่อสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ทุกเสาตอม่อได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ปริมาณน้ำโขงจะลดลงต่ำที่สุดและทำสถิติใหม่ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเข้าสู่เดือนมีนาคม ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวหนองคายต่างเป็นห่วงว่าสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้จะรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา
โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกพืชตามริมฝั่งแม่น้ำโขงต่างได้รับผลกระทบ บางแห่งน้ำโขงแห้งขอดไม่สามารถใช้เครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสูบน้ำขึ้นมารดพืชผักได้
อย่างไรก็ตาม นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย ได้นำเครื่องจักร รถแบคโฮขุดบ่อน้ำซึม บริเวณแม่น้ำโขงบ้านท่ามะเฟือง หมู่ 7 ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ เชื่อมต่อกับบ้านเวียงคุก หมู่ 3 ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย เนื่องจากบริเวณดังกล่าวแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่มีเกาะดอนแตง ของประเทศลาว กั้นกลางแม่น้ำโขง ปริมาณน้ำโขงที่ลดต่ำลง น้ำไม่สามารถไหลมาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเขตประเทศไทย
ส่งผลทำให้น้ำโขงแห้งขอด เกษตรกร 2 หมู่บ้าน กว่า 500 ครัวเรือน ที่ปลูกพืชสวน เช่น พริก ถั่วฝักยาว ข้าวโพด เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ ขาดน้ำรดพืชผัก จนเหี่ยวเฉาใกล้จะยืนต้นตาย
อบจ.หนองคาย ได้เร่งช่วยเหลือเกษตรกร โดยนำรถแบคโฮขุดตักทรายออก ทำเป็นบ่อดักน้ำซึม กว้าง 10 เมตร ยาว 10 เมตร ลึกประมาณ 4 เมตร จำนวน 21 บ่อ ยาวตลอดแนว 2 หมู่บ้าน หรือประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อขุดเป็นบ่อน้ำจะมีน้ำซึมออกมาเป็นน้ำกักไว้ให้เกษตรกรนำไปใช้ในการเกษตรได้จนถึงฤดูน้ำหลาก
นายสมควร ส่องแจ้ง อายุ 56 ปี เกษตรกรชาวบ้านเวียงคุก กล่าวว่า ตนได้ปลูกพริกไว้ 3 ไร่ เก็บผลผลิตได้บางส่วน แต่ยังเหลืออีกเกินครึ่ง ที่เสี่ยงต่อการยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ เนื่องจากปีนี้ปริมาณน้ำโขงลดลงอย่างรวดเร็ว จนเกษตรกรตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งปริมาณน้ำโขงไม่เคยลดต่ำเช่นนี้มาก่อน ในทุกปียังพอมีน้ำโขงไหลมา บริเวณริมฝั่งให้สามารถใช้เครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสูบน้ำมารดผักได้ แต่ปีนี้กลับแห้งขอด
จึงต้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งการที่ อบจ.หนองคาย ขุดบ่อน้ำซึมให้ในครั้งนี้จะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรทุกรายตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขงได้เป็นอย่างดี