ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราชถกเครียดรับมือแดงถ่อยม็อบใหญ่โหมโรง 5 มี.ค.นี้ที่ลานย่าโม ด้าน ผบช.ภ.3 เผยพบแกนนำแดงระดมคนร่วมชุมนุมนับหมื่น สั่งจัดกำลัง ตร.-ชุดควบคุมฝูงชนดูแลเข้มกว่า 2,000 นาย มั่นใจรับมือไหว ระบุต้องชุมนุมโดยสงบตามรธน.ปราศจากอาวุธอย่าสร้างวุ่นวาย ลั่นแดงถ่อยอีสานรวมตัวอ.ปากช่อง 12 มี.ค.ก่อนบุกกรุง 14 มี.ค.ห้ามปิดถนนเด็ดขาด ย้ำ ตร. 8 จังหวัดอีสานใต้ เพิ่มความเข้มงวดดูแลสถานที่ราชการ บ้านพักบุคคลสำคัญและธนาคาร ป้องกันเกิดเหตุระเบิดซ้ำรอยกรุงเทพฯ เผยจับตาพิเศษอาชญากรที่มีหมายจับกว่า 10 คน หวั่นก่อเหตุร้ายแรง
วันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ห้องประชุมไทรทอง สภ.อ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ได้เรียกประชุมหัวหน้าสถานีตำรวจทุกสถานีและตัวแทนฝ่ายปกครองในพื้นที่ 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมาเพื่อเตรียมการรับมือการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ในวันที่ 5 มี.ค. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรานรี(ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และในวันที่ 12 มี.ค.ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ก่อนเข้าร่วมชุมนุม 14 มี.ค. ที่กรุงเทพฯ ซึ่งการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียดและไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์แต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) เปิดเผย ถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างภายหลังคำตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า จากการติดตามข่าวโดยภาพรวมยังไม่พบการเคลื่อนไหวอะไรที่จะส่อให้เห็นว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เป็นเพียงมีการจัดการปราศรัยกันโดยทั่วไปในแต่ละจังหวัด ซึ่งไม่มากนัก โดยในช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.นครราชสีมา , จ.ศรีสะเกษ , จ.สุรินทร์ และ จ.ชัยภูมิ รวมทั้ง จ.อุบลราชธานี
ส่วนการชุมนุมใหญ่โหมโรงที่ จ.นครราชสีมาในวันที่ 5 มี.ค.นี้ บริเวณลานย่าโมของกลุ่มคนเสื้อแดงก่อนร่วมชุมนุมทั่วประเทศที่ กรุงเทพฯ 14 มี.ค.นั้น เท่าที่ติดตามข่าวทราบว่า มีแกนนำในแต่ละจังหวัด และแกนนำแต่ละอำเภอของ จ.นครราชสีมา ทั้ง 32 อำเภอจะนำกลุ่มมวลชนของตัวเองเข้ามาร่วมชุมนุมที่ลานย่าโม คาดการณ์ไว้ว่าอาจมีผู้มาร่วมชุมนุมถึงจำนวนกว่า 1 หมื่นคนขึ้นไป
ฉะนั้น ในช่วงนี้จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เนื่องจากการที่นำคนเข้ามาในพื้นที่เดียวกันเป็นจำนวนมาก ต้องมียาพาหนะที่บรรทุกคนเข้ามาเป็นจำนวนมากจะก่อให้เกิดปัญหาการจราจรบริเวณหน้าและหลังลานย่าโม จึงต้องเตรียมพร้อมรับมือในเรื่องนี้ไว้ โดยมีการจัดระบบการจราจรภายในเขตตัวเมืองและการจัดระบบการรักษาความปลอดภัยในบริเวณที่ชุมนุมไม่ให้เกิดเหตุแทรกซ้อนขึ้นได้
สำหรับกำลังตำรวจที่จะมาปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าวนั้น กำลังหลักจะเป็นของตำรวจจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 1,125 นาย หรือประมาณ 25% ของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอยู่ทั้งหมดในจ.นครราชสีมาจำนวน 4,500 นาย และยังมีกำลังจากชุดควบคุมฝูงชนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาอีก 6 กองร้อยหรือประมาณ 900 นายเข้ามาช่วยด้วย ส่วนกำลังจากจังหวัดใกล้เคียงให้เตรียมความพร้อมในที่ตั้งหากมีการเคลื่อนกำลังคนเข้ามามากอาจต้องระดมกำลังตำรวจเข้าช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งประเมินสถานการณ์จนถึงขณะนี้มั่นใจว่าตำรวจรับมือไหว
ถึงขั้นต้องขอกำลังทหารกองทัพภาคที่ 2 มาช่วยหรือไม่นั้น พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า จะต้องดูตามสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง แต่ได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยข้างเคียงไว้แล้วทั้งทหาร, อปพร. และ อส. เพราะมีภารกิจที่อาจต้องขอรับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือกัน เช่น เรื่องการรักษาสถานที่สำคัญ,สถานที่ราชการ และธนาคาร ร้านทองต่างๆ ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งจากการติดตามข่าวยังไม่พบว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมในจุดอื่นของ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษที่ จ.นครราชสีมา
“อย่างไรก็ตามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ลานย่าโม สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญแต่ต้องชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ในส่วนของตำรวจจะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและการจราจรที่จะไม่ให้กระทบกับประชาชนในพื้นที่หรือให้กระทบน้อยที่สุด”พล.ท.ต.เดชาวัต กล่าว
พล.ต.ท.เดชาวัต ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ต่างๆ ติดตามความเคลื่อนไหวกรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่า มีการฝึกกองกำลังติดอาวุธให้ประชาชนในเขตพื้นที่ อ.พิมาย และ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ การฝึกประชาชนส่วนใหญ่เป็นการฝึกอาสาสมัครของตำรวจเราเอง
การป้องกันเฝ้าระวังเหตุระเบิดตามสถานที่สำคัญและสถาบันการเงินเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเกิดเหตุปาระเบิดธนาคารกรุงเทพ ที่ กรุงเทพฯ นั้น พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่าในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างได้มีการเพ่งเล็งและจับตากลุ่มที่มีหมายจับอยู่แล้วเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยมีพฤติกรรมในการกระทำผิดซึ่งมีอยู่กว่า 10 คน
พล.ต.ท.เดชาวัต ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงประกาศว่า กลุ่มเสื้อแดงอีสาน 19 จังหวัดจะรวมตัวกันที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาในวันที่ 12-13 มี.ค.นี้ก่อนเคลื่อนขบวนเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ว่า ได้มีการเฝ้าติดตามข้อมูลอยู่ในทุกจังหวัด และได้เตรียมแผนรองรับไว้อยู่แล้วในเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการดูแลความปลอดภัย ซึ่งตำรวจคงไม่ยอมให้กลุ่มคนเสื้อแดงปิดถนนเด็ดขาดเพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย พร้อมกันนี้จะเพิ่มความเข้มข้นในการตั้งจุดตรวจ
“สิ่งที่เป็นห่วงและวิตกกังวลของเราคือการที่คนมารวมกันมากๆ อาจเกิดเหตุที่เรายากคาดเดาได้ ฉะนั้นเราจะเน้นในเรื่องการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยเป็นหลักไว้ก่อน และการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนเพื่อให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบปราศจากอาวุธเป็นสำคัญ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบล่วงหน้าไว้ก่อน โดยทุกสถานีตำรวจขณะนี้ได้เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกไว้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้น และให้ประชาชนได้เข้าใจถึงบทบาทอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครต่าง ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเหลือกันในการปฏิบัติงาน” พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าว
