ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พล.ท.วีร์วลิต ” มทภ. 2สั่งเพิ่มมาตรการเข้มรักษาความปลอดภัยบ้านพัก “ป๋าเปรม” โคราชรับมือเสื้อแดงป่วนช่วงตัดสินคดียึดทรัพย์ “นช.แม้ว” พร้อมให้ “กอ.รมน.จว.” ทั้ง 19 จังหวัดอีสานติดตามความเคลื่อนไหวม็อบใกล้ชิด เน้นพูดคุยสร้างความเข้าใจขอให้เห็นแก่ประเทศชาติ ระบุยังไม่พบกองกำลังติดอาวุธจากชายแดนเข้ามาร่วมม็อบแดง เชื่อตำรวจเอาอยู่ ส่วนทหารเตรียมความพร้อมเต็มที่ในที่ตั้งพร้อมออกปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่ได้รับคำสั่ง คาดภาคอีสานไม่มีเหตุรุนแรง ชี้ทหารติดตามสถานการณ์ชายแดน “ตาเมือนธม”อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (16 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และ ผู้อำนวยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 (ผอ.กอ.รมน.ภาค2) เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่รับผิดชอบ 19 จังหวัดภาคอีสานว่า ล่าสุดจนถึงขณะนี้มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นบ้างในหลายจังหวัดของภาคอีสาน ซึ่งจากการติดตามข่าวทราบว่าในวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่ศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 7.6 หมื่นล้านบาทนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่มีการรวมพลังชุมนุมกันที่กรุงเทพฯ ฉะนั้นอาจทำให้มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งได้ประสานกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (กอ.รมน.จว.) ทุกจังหวัดในภาคอีสานให้ติดตาม พูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่าให้เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ
อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการจับตามองพื้นที่ใดเป็นพิเศษ เพราะทุกคนมีสิทธิ์เคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญได้อยู่แล้ว จึงไม่ได้เพ่งเล็งไปที่จุดหนึ่งจุดใด เพียงแต่ขอว่าอย่าไปทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือทำให้ประชาชนโดยรวมได้รับความเดือดร้อนเท่านั้น
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า จะมีกองกำลังติดอาวุธจากพื้นที่ชายแดนเข้ามาเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้เลย และทางกองทัพไม่เคยได้รับข่าวนี้มาก่อน และขอยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีกองกำลังดังกล่าวเคลื่อนไหวแต่อย่างใด
“ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ติดตามข่าวนี้มาโดยตลอดและต่อเนื่อง รวมถึงความสัมพันธ์ที่มีกับกองทัพเพื่อนบ้านไม่ว่าทางด้านตะวันออกหรือทางด้านเหนือก็ตาม เรามีความสัมพันธ์ที่ดี มั่นใจว่าไม่มีกองกำลังดังกล่าวแน่นอน” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
สำหรับการดูแลบุคคลสำคัญและสถานที่หรือบ้านพักบุคคลสำคัญ โดยเฉพาะบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ ถนนสืบศิริ หน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ในช่วง 10 วันอันตรายก่อนถึงวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน นั้น พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ไม่ได้มีการเพิ่มกำลังอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่กำชับให้มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น โดยให้มีการกวดขันเวรยาม เจ้าหน้าที่ที่จะต้องไปปฏิบัติหน้าที่ก็ให้มีความรัดกุมมากที่สุด ซึ่งจากรายงานข่าวยังไม่พบว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไหวไปที่บ้านพักของ พล.อ.เปรม ที่ จ.นครราชสีมา แต่อย่างใด และคิดว่าคงไม่มี
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวต่อว่า จากการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้คาดว่าการเคลื่อนไหวต่าง ๆ จากนี้ไปในพื้นที่ภาคอีสานจากที่มีการประเมินสถานการณ์กันหลายด้าน น่าจะไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ ที่จะนำไปสู่ความรุนแรง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังไม่ได้มีการร้องขอกำลังทหารเข้าไปช่วยแต่อย่างใด เพราะการปฏิบัตินั้นได้วางไว้ 4 ขั้นตอนการปฏิบัติ คือ ขั้นที่ 1 ให้เป็นเรื่องของตำรวจใช้กฎหมายตามที่มีอยู่ ขั้นที่ 2 ถ้าสถานการณ์เพิ่มมากขึ้นจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถรับมือได้ก็จะขอกำลังทหารเข้าไปช่วยเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน หรือ ขั้นที่ 3 ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง หรือกระทั่งขั้นที่ 4. พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ซึ่งคิดว่าขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นที่ 3 หรือ 4 คงอยู่แค่ขั้นที่ 1 เท่านั้น
“สำหรับทหารได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ในที่ตั้งอย่างเต็มที่ และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งทหารเราต้องพร้อมที่จะดูแลหน่วยที่ตั้งของเราด้วย และมีความพร้อมในการที่จะปฏิบัติตามคำสั่งที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายให้ด้วย” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงกลุ่มมวลชนไม่ว่าจะกลุ่มใด หรือสีใดก็ตาม ขณะนี้การเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เป็นการกดดันรัฐบาลก็ดี หรือเรียกร้องสิ่งที่ท่านต้องการก็ดี อยากจะขอให้คำนึงถึงประเทศชาติ ซึ่งประเทศชาติเราอาจจะเสียหายไปมากกว่านี้ ขอให้ใช้เหตุใช้ผล ได้พูดคุยกัน ใช้หลักสันติวิธีน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด