นราธิวาส - รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 หวั่นโจรใต้ป่วนครั้งใหญ่วิ่งรอกกำชับกองกำลังนราฯ หลังหน่วยข่าวเตือนการลอบวางระเบิดทำลายกลุ่มธุรกิจครั้งใหญ่ใน 9 อำเภอของ 3 จชต.ภายในเดือน มี.ค.นี้ หวังผลระยะยาวทำลายระบบเศรษฐกิจให้อ่อนแอและขาดดุลเพื่อนบ้าน ก่อนเข้ามาก่อเหตุอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น และเรียกร้องให้กลุ่มองค์การการประชุมอิสลามเข้ามาแทรกแซงจากการทำให้เห็นว่ารัฐไร้น้ำยาแก้ปัญหาแล้ว
วันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น. พล.ต.โชค เพิกโสภณ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 และคณะ ได้เดินทางมายังพื้นที่ จ.นราธิวาส เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่กองกำลังทั้ง 3 ฝ่ายที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดตรวจบ้านปลักปลา ม.8 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นจุดตรวจร่วมที่เคยถูกกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ RKK ยิงถล่มจนส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อปลายปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาสและเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องคอยให้การต้อนรับ
รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ได้ทำการตรวจสอบระบบกล้องวงจรปิด และระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านไปมา พร้อมทั้งได้กล่าวกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิด หลังพบเบาะแสจากหน่วยข่าวยืนยันว่าในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ทางกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ RKK มีแผนที่จะลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์และรถจักรยานยนต์บอมบ์ ในการทำลายระบบเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ซบเซา ซึ่งเป็นแผนการหนึ่งที่ทำให้พื้นที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และขาดดุลด้านการค้าร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการขาดความเชื่อถือของนักลงทุน
ทั้งนี้จึงเป็นผลพลอยได้ทำให้กลุ่มสมาชิกกองกำลังติดอาวุธสามารถที่จะแฝงตัวเคลื่อนไหวในการก่อเหตุร้ายได้ง่ายเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา โดยพื้นที่เป้าหมายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธ RKK มีแผนก่อเหตุครั้งใหญ่ มีจำนวนทั้งสิ้น 9 อำเภอ โดยพื้นที่ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อำเภอสุไหงโก-ลก เมืองระแงะ และรือเสาะ ส่วนพื้นที่ จ.ยะลา ประกอบด้วย อำเภอเมือง และบันนังสตา ส่วนพื้นที่ จ.ปัตตานี ประกอบด้วย อำเภอเมือง หนองจิกและทุ่งยางแดง
โดยแหล่งข่าวจากหน่วยความมั่นคงที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตรวจสอบพบว่าเป้าหมายที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธ RKK มีแผนก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในครั้งนี้ นอกจากจะแสดงศักยภาพในสมาชิกแนวร่วมในกลุ่มมีความฮึกเหิมแล้ว ยังต้องการให้กับกลุ่มสมาชิกโอไอซีได้รับทราบว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีความรุนแรง อันเป็นผลพวงจากการบริหารประเทศที่ล้มเหลวของรัฐบาล ทางองค์การการประชุมอิสลาม หรือ OIC จึงมีความจำเป็นต้องเข้ามาดูแลเพื่อให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองเป็นรัฐอิสระตามอุดมการณ์ในอดีตที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธได้สานต่อมาจากขบวนการโจรก่อการร้าย หรือกลุ่ม ขจก.ในอดีต
