นครพนม-3 สาวใหญ่นครพนมเสียรู้แอบหลบสามีเที่ยวราตรี ตามกิ๊กเข้ารีสอร์ตหลังปิ๊งที่ผับตะวันแดง ก่อนถูกมอบยารูดทรัพย์ทองคำเงินสดเกลี้ยงครึ่งแสน
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.ณรงค์ วงศ์ธรรม สารวัตร สภ.เมืองนครพนมว่า เมื่อเวลา 20.30 น.ของวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้รับแจ้งความจาก นางวิลัยวรรณ ศรีสรรค์ อายุ 50 ปี นางสาวิตรี เวียงกุดสุราช ราช อายุ 47 ปี และนางประนอม เปล่งทรัพย์ อายุ 46 ปี ชาว บ.ห้อม หมู่ 11 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ได้ถูกคนร้ายเป็นชายหนุ่มวัยทอง 3 คน หน้าตาดีมอบยารูดทรัพย์ที่รีสอร์ต ภูธารินทร์รีโซเทล บ.หนองจันทร์ อ.เมือง ตั้งอยู๋ริมถนนสายนครพนม-ธาตุพนม ได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก ก่อนจะหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น.วันเดียวกัน
พ.ต.ท.ณรงค์ วงศ์ธรรม กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ได้ให้การวกวนคล้ายถูกมอมยาโดยอ้างว่า เมื่อคืนของวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมาได้ชักชวนกันเที่ยวดื่มสุราที่ผับตะวันแดง ซึ่งมีวงดนตรีเพื่อชีวิตแสดงร้องเพลงสด ขณะนั่งกินดื่มกำลังได้ที่นั้น ก็ได้มี 3 ชายหนุ่มวัยทองหน้าตาดี แต่งตัวภูมิฐานเข้ามาตีสนิทขอเป็นกิ๊กนั่งดื่มกินเป็นเพื่อนคุยด้วย ก่อนจะขอเบอร์โทรศัพท์ 3 สาวใหญ่ไว้ก่อนจากลากันในคำคื่นนั้น
วันต่อมา 3 ชายหนุ่มได้โทร.ติดต่อชักชวน 3 สาวใหญ่มานั่งดื่มสุราที่ร้านอาหารวิวโขง ริมฝั่งแม่น้ำโขง ร้านขายอาหารปลาน้ำโขงเครื่องดื่มขึ้นชื่อของจังหวัด โดยไม่ทราบว่า 3 ชายหนุ่มคนร้ายจิ้งจอกสังคมนั่งรถอะไรมา โดยเริ่มกินกันประมาณ 14.00 น. จนกระทั่งถึงเวลา 19.00 น.ทั้ง 3 หนุ่มได้ออกอุบายว่าได้เปิดห้องพักไว้ที่รีสอร์ต ห่างจากร้านอาหารวิวโขงประมาณ 1 กม.
ทั้ง 3 หนุ่มได้อ้างว่า ต้องการอาบน้ำก่อนและจะพาไปเที่ยวต่อ ทั้ง 3 สาวหลงเชื่อพากันซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไชค์ของผู้เสียหายมาที่ห้องพักรีสอร์ต ก่อนจะเคลิ้มหลับและถูกรูดทรัพย์จนเกลี้ยง
เบื้องต้นผู้เสียหายทั้ง 3 ราย อ้างว่าเป็นแม่ค้า โดย นางวิลัยวรรณ มีทรัพย์สินหายที่สูญหายไปมี สร้อยคอมือทองคำ สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ แหวนทองคำ 2 วง รวมน้ำหนัก 2 บาท เงินสด 1,000 บาท นางสาวิตรี มีสร้อยคอมือ สร้อยคอทองคำพร้อมจี้ แหวนทองคำ น้ำหนักร่วม 3 บาท เงินสด 13,000 บาทและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ส่วนนางประนอม ไม่มีทรัพย์สินติดตัวอะไรสูญหาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เนื่องจากผู้เสียหายเป็นหญิงทั้ง 3 ราย ให้การวกไปวนมา บางคนนอนกลิ้งไปมาบนโรงพักคล้ายยังไม่สิ้นฤทธิ์ยา
พ.ต.ท.ณรงค์ วงศธรรม กล่าวอีกว่า จากการนำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวผู้เสียหายทั้ง 3 รายไปชี้จุดเกิดเหตุที่รีสอร์ต และสอบสวนนายปัญญา ว่องไว อายุ 36 ปี ผู้จัดการรีสอร์ต ให้การว่า มีคนร้าย 1 ใน 3 ราย ลักษณะอ้วนขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดที่หน้าห้องพัก 6 A ขอเปิดห้องวีไอพี ในราคา 700 บาท ระบุชื่อในทะเบียนผู้เข้าพักชื่อนายเกรียงไกร พร้อมเบอร์โทร.08-7902-8990
แต่ไม่ทราบว่าคนร้ายและผู้เสียหายมากันกี่คน กระทั่งรุ่งเช้าแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดพบว่าห้องพักเละเทะไปหมด
นายหำ แก้วบัวบาน อายุ 18 ปี คนงานสวนให้การว่า ตนเข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาดพบกาแฟกระป๋อง 2 กระป๋อง เครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อแบรนด์ 3 ขวด ขวดโค้กและกระดาษทิชชูทิ้งเกลื่อนที่นอน นอกจากนี้ยังพบกางเกงในผู้หญิง 1 ตัวเปื้อนอุจจาระ และมีอุจจาระกองเรี่ยราดกระจายเต็มห้อง ส่งกลิ่นเหม็นแทบอาเจียน
ส่วนนายชาญชัย ภาพึ่ง อายุ 40 ปี แคชเชียร์รีสอร์ต กล่าวว่า 1 ใน 3 คนร้ายมีลักษณะอ้วนส่วนอีก 2 คน มีรูปร่างผอม แต่จากการตรวจกล้องวงจรปิดไม่พบใบหน้าคนร้าย เนื่องจากมืดมาก
ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายแก๊งนี้มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้เสียหายสวมใส่เครื่องประดับล่อหูล่อตา โดยทำทีนัดแนะกันว่าจะมาตกลงซื้อที่ดินกับนางวิลัยวรรณ ที่ร้านอาหารวิวโขง ก่อนออกอุบายไปขอเปิดห้องพักไว้ ระหว่างนั้น 2 ใน 3 คนร้ายได้นำเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อแบรนด์ให้ผู้เสียหายทั้ง 3 รายดื่ม คาดว่าในเครื่องดื่มอาจมีตัวยาที่ทำให้เคลิ้มสะลึมสะลือคล้ายถูกมอมยา ก่อนปลดเอาทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้เสียหายทั้งหมดไปตรวจร่างกาย ว่าถูกข่มขืนหรือไม่ และจะได้ตรวจสอบที่ร้านอาหารวิวโขงว่า ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดหรือไม่ และจะได้สืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งติดตามแก๊งคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
