xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาพิจิตรลุยล่าหนูนาขายหลังระบาดหนัก เผยได้ราคาดีกว่าหมู-ไก่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร - ชาวนาเมืองชาละวันรวมกลุ่มออกล่าหนูนาขาย หลังพบระบาดหนักในนาข้าว เผยใช้ประกอบเป็นอาหารในครัวเรือน พร้อมชำแหละ-รมควัน ขายได้ราคาแพงกว่าเนื้อหมู-ไก่

วันนี้ (24 ก.พ.) นายภาณุกิจ แสงจันทร์ เกษตรกรชาวนาบ้านคลองคู้ หมู่ 6 ต.ท่าหลวง อ.เมือง พิจิตร เปิดเผยว่า หลังจากทำนาปีในฤดูกาลที่ผ่านมา แล้วถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระนาดกัดกินทำลายต้นข้าวไปเป็นบริเวณกว้าง จนหลายสิ้นเนื้อประดาตัว จึงหันมาทำข้าวนาปรังในช่วงฤดูแล้ง เพื่อหวังมีรายได้เป็นการชดเชย แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดกลับต้องมาพบการแพร่ระบาดของหนูนา ที่เป็นศัตรูตัวร้ายของชาวนาอีก โดยถูกหนูนากัดกินต้นข้าวเสียหายพอกับเพลี้ยกระโดดทีเดียว

ดังนั้น ชาวนาพิจิตรบางพื้นที่จึงรวมตัวกันใช้อุปกรณ์และภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำกับดักที่ทำจากไม้ไผ่-วัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น และเชือกไนร่อน ซึ่งชาวบ้านเรียกกับดักหนูดังกล่าวว่าว่า “กับดักฟ้าผ่า”ออกไล่ล่าหนูนาตามท้องนาในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หนูนาจะออกหากิน

โดยก่อนนำกับดักไปดักหนูนา พวกเขาจะใช้วิธีสังเกตพื้นที่บริเวณรูหนูตามคันนา ซึ่งจะพบรอยดินใหม่ๆ ก็แสดงว่ามีหนูอาศัยอยู่ จากนั้นก็จะนำเอากับดักฟ้าผ่า ไปวางตามทางเดินของหนูที่เดินออกมาหาอาหารกิน เมื่อหนูนาเดินผ่านกับดักแล้วถูกกระเดื่องที่ทำจากไม้ไผ่นั้น กับดักฟ้าผ่า ก็จะทำงานจะหนีบตัวหนูติดอยู่กับดัก หลังจากนั้นก็จะนำหนูไปชำแหละแล้วนำไปประกอบอาหารพื้นบ้านโดยมีเมนูหลายอย่าง เช่น ผัดเผ็ดหนูนาใส่ใบยี่หร่าและพริกไทยอ่อน ปรุงรสแซ่บร้อนแรง หนูนาทอดกระเทียมพริกไทย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเป็นเมนูกลับแกล้มที่ถูกคอชาวนาหรือนักดื่มทั่วไป

นอกจากนี้ เมื่อเหลือจากการประกอบอาหารภายในครัวเรือนแล้ว จึงนำไปขายตามท้องตลาด ที่มีราคาซื้อขายหนูนาชำแหละสดกิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าเป็นหนูนาย่างรมควันจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งแม้ว่าเนื้อหนูนาจะมีราคาแพงกว่าเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ก็ตามแต่นักเปิบพิสดารทั้งหลายก็ยังชื่นชอบเป็นที่ขายดิบขายดีและมีออร์เดอร์จากร้านอาหารป่าสั่งจองกันจำนวนมาก

นายภาณุกิจเชื่อว่า หนูนามีธาตุอาหารโปรตีนเหมือนกับเนื้อสัตว์ทั่วไป แต่มีคำเตือนว่าต้องนำมาปรุงสุกก่อนรับประทาน และต้องเป็นหนูนาที่ได้มาจากการที่ไม่ใช้สารเคมีหรือยาเบื่อหนูเท่านั้น



กำลังโหลดความคิดเห็น