หนองบัวลำภู -เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ สนธินำกำลังเจ้าหน้าที่ยึดไม้มะค่าโมงอายุกว่า 150 ปี ภายหลังถูกกลุ่มนายทุนโค่นล่มในเขตอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำพร้อมของกลางในขณะที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกข่มขู่จากผู้ใหญ่โทรเข้ามาร้องขอก่อนนำส่งตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 13 ก.พ.53 นายหนึ่งพิทักษ์ เครือสุข เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าประจำอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ ได้รับแจ้งจากนายอ่อนจันทร์ ศรีกุล ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านทรายงาม ต.นามะเฟือง อ.เมืองหนองบัวลำภู ว่าได้มีกลุ่มคนไม่ทราบจำนวนได้ลักลอบตัดต้นไม้มะค่าโมงอายุกว่า 150 ปีในเขตอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ
ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าไม่ถึง 3 กม.หลังได้รับแจ้งจึงรายให้ นายกฤษณ์ สุริยินทร์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ทราบพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ อาสาสมัครพิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่เกิดเหตุ
ทันที่ที่เจ้าหน้าที่เดินทางถึงที่เกิดเหตุพบต้นมะค่าโมงถูกโค่นลงใกล้ๆหัวไร่ปลายนาของชาวบ้านทรายงาม ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์ไม่ถึง 3 กม.อยู่บริเวณเชิงเขา กลุ่มผู้ต้องหาได้วิ่งหนีแตกกระเจิงขึ้นไปบนเทือกเขาภูเก้า เจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นต้นมะค่าโมงถูกตัดเป็น 5 ท่อนๆละประมาณ 3 เมตร โค่นต้นมะค่าโมงวัดได้ประมาณ 1.50 เมตร รวมปริมาตร 3.93 ลูกบาศก์เมตร
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางเป็นเลือยโซ่ยนต์พร้อมถังน้ำมัน 2 แกลนลอน และรถบรรทุก 6 ล้อทะเบียน 80- 0374 หนองบัวลำภู สีน้ำเงินจอดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร 1 คันมีรูปภาพนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดหนองบัวลำภูติดอยู่กับกระจกรถยนต์ เตรียมพร้อมการขนย้าย แต่ไม่พบผู้ต้องหา
หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มคนต้องสงสัยได้เข้ามาแสดงตนว่าเป็นผู้ที่ลักลอบตัดต้นมะค่าโมง 2 คน ชื่อนายชาญ พีระภาค อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 1 ตำบลนาคำไฮ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู นายนาวา ด้ายผึ้ง อายุ 19 ปี 174 หมู่ 11 ตำบลนาคำไฮ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีนายทุนไม่ทราบชื่อว่าจ้างให้มาตัดต้นมะค่าโมงในเขตพื้นที่อุทยานฯใกล้ๆกับหมู่บ้านทรายงาม
โดยบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาคุ้มกันให้ก่อนจะนำไปแปรรูปต่อไปและในระหว่างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าฯเข้าดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์ข่มขู่จากผู้ใหญ่ในพื้นที่พร้อมต่อรองเพื่อมิให้มีการดำเนินการตามกฎหมาย
ด้านนายกฤษณ์ สุริยินทร์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เปิดเผยว่าตนได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนคดีตามความผิดใน พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,70,73 และพรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(2),24 ข้อหาทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพซึ่งไม้ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ
และมีไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นนอกจากไม้สัก ไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ข้อหาเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และตรวจยึดไม้หวงห้ามรวม 5 ท่อน ปริมาตร 3.93 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 40,000 บาท ไว้เป็นของกลาง พร้อมนำของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยพิทักษ์ป่าภูเก้าภูพานคำ บ้านหนองศาลา ต.นามะเฟือง อ.เมืองหนองบัวลำภู
หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางหลังการบันทึกการสอบสวน ส่ง พ.ต.ท ภควัตร บงแก้ว ร้อยเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 13 ก.พ.53 นายหนึ่งพิทักษ์ เครือสุข เจ้าพนักงานพิทักษ์ป่าประจำอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ ได้รับแจ้งจากนายอ่อนจันทร์ ศรีกุล ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านทรายงาม ต.นามะเฟือง อ.เมืองหนองบัวลำภู ว่าได้มีกลุ่มคนไม่ทราบจำนวนได้ลักลอบตัดต้นไม้มะค่าโมงอายุกว่า 150 ปีในเขตอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ
ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าไม่ถึง 3 กม.หลังได้รับแจ้งจึงรายให้ นายกฤษณ์ สุริยินทร์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ทราบพร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ อาสาสมัครพิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่เกิดเหตุ
ทันที่ที่เจ้าหน้าที่เดินทางถึงที่เกิดเหตุพบต้นมะค่าโมงถูกโค่นลงใกล้ๆหัวไร่ปลายนาของชาวบ้านทรายงาม ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์ไม่ถึง 3 กม.อยู่บริเวณเชิงเขา กลุ่มผู้ต้องหาได้วิ่งหนีแตกกระเจิงขึ้นไปบนเทือกเขาภูเก้า เจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นต้นมะค่าโมงถูกตัดเป็น 5 ท่อนๆละประมาณ 3 เมตร โค่นต้นมะค่าโมงวัดได้ประมาณ 1.50 เมตร รวมปริมาตร 3.93 ลูกบาศก์เมตร
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางเป็นเลือยโซ่ยนต์พร้อมถังน้ำมัน 2 แกลนลอน และรถบรรทุก 6 ล้อทะเบียน 80- 0374 หนองบัวลำภู สีน้ำเงินจอดห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 30 เมตร 1 คันมีรูปภาพนักการเมืองชื่อดังของจังหวัดหนองบัวลำภูติดอยู่กับกระจกรถยนต์ เตรียมพร้อมการขนย้าย แต่ไม่พบผู้ต้องหา
หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มคนต้องสงสัยได้เข้ามาแสดงตนว่าเป็นผู้ที่ลักลอบตัดต้นมะค่าโมง 2 คน ชื่อนายชาญ พีระภาค อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 1 ตำบลนาคำไฮ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู นายนาวา ด้ายผึ้ง อายุ 19 ปี 174 หมู่ 11 ตำบลนาคำไฮ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีนายทุนไม่ทราบชื่อว่าจ้างให้มาตัดต้นมะค่าโมงในเขตพื้นที่อุทยานฯใกล้ๆกับหมู่บ้านทรายงาม
โดยบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาคุ้มกันให้ก่อนจะนำไปแปรรูปต่อไปและในระหว่างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าฯเข้าดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์ข่มขู่จากผู้ใหญ่ในพื้นที่พร้อมต่อรองเพื่อมิให้มีการดำเนินการตามกฎหมาย
ด้านนายกฤษณ์ สุริยินทร์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เปิดเผยว่าตนได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนคดีตามความผิดใน พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 48,70,73 และพรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(2),24 ข้อหาทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพซึ่งไม้ภายในเขตอุทยานแห่งชาติ
และมีไม้หวงห้ามแปรรูปชนิดอื่นนอกจากไม้สัก ไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ข้อหาเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และตรวจยึดไม้หวงห้ามรวม 5 ท่อน ปริมาตร 3.93 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 40,000 บาท ไว้เป็นของกลาง พร้อมนำของกลางไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยพิทักษ์ป่าภูเก้าภูพานคำ บ้านหนองศาลา ต.นามะเฟือง อ.เมืองหนองบัวลำภู
หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางหลังการบันทึกการสอบสวน ส่ง พ.ต.ท ภควัตร บงแก้ว ร้อยเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
