อุบลราชธานี-นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี นำรถไถนาที่คณะกรรมการ ปปช.สภาผู้แทนราษฎรเข้าตรวจสอบ แล้วระบุว่าการจัดซื้อไม่โปร่งใสมาแสดงกับสื่อมวลชน พร้อมระบุว่าผู้ให้ข้อมูลกับสื่อไม่รู้จริง ทำให้ข่าวคลาดเคลื่อน ยันยังคงเดินหน้าซื้อรถไถให้ชาวบ้านต่อไป เพราะเป็นโครงการดี นักการเมืองคนไหนต่อต้านมักสอบตกหมด
วันนี้( 11 ก.พ.) นายพรชัย โควสุรัตน์ นายก อบจ.อุบลราชธานี นำรถไถที่มอบให้สหกรณ์ลุ่มน้ำมูล ซึ่งมีนายอุทัย พละชัย เป็นผู้จัดการไปไถนาให้สมาชิกของสหกรณ์ และมีการเรียกเก็บเงินจากสมาชิกในราคาสูง กระทั่งคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ปปช.) สภาผู้แทนราษฎรลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมระบุว่าการจัดซื้อรถไถนาจำนวน 440 คันขององค์การบริหารส่วนจังหวัด อาจไม่ได้สเปกส่อไปในทางทุจริตนั้น
นายพรชัยชี้แจงว่า ได้สั่งซื้อรถไถนาดังกล่าวตั้งแต่ปี 2549 มีการประกวดราคาผ่านระบบอีอ็อคชั่น จนได้ราคาที่เหมาะสมไม่ได้แพงจนเกินเหตุ และการจัดซื้อรถไถนาหรือรถฟาร์มแทรคเตอร์ทั้งหมดของ อบจ.ได้สั่งซื้อพร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น ฝายไถ ซึ่งมีทั้งแบบ 3 ฝาย 5 ฝายระบบโรตารี่ พร้อมจอบหมุน เมื่อรวมอุปกรณ์ส่วนควบกับตัวรถแล้ว ราคาอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต่อคัน ซึ่งเป็นราคาตามท้องตลาด และการจัดซื้อได้ทำเรื่องขออนุมัติต่อสภา อบจ. พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดก็เห็นชอบด้วย
ส่วนที่กรรมาธิการฯมาตรวจสอบและระบุสเปกรถไม่ตรงกับที่ตรวจรับนั้น อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จึงดูเลขฝาสูบเป็นเลขรหัสประจำเครื่องยนต์ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งกรณีดังกล่าวคงต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้น
และนายพรชัยยังระบุอีกว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ยังจะเดินหน้าจัดซื้อรถไถนาให้กับชาวบ้านต่อไป เพราะจำนวนรถไถนาที่มีอยู่ยังจำนวนน้อย ไม่พอกับความต้องการของประชาชนที่มีหมู่บ้านมากถึง 2,699 หมู่บ้าน ซึ่งทั้งหมดมีความจำเป็นต้องมีรถไถไว้ช่วยทำเกษตรกรรมตลอดทั้งปี
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะมีนักการเมืองบางคนบางพรรคเสียฐานคะแนนนิยมหรือไม่นั้น เท่าที่ทราบมาใครต่อต้านโครงการซื้อรถไถนาให้ชาวบ้าน มักจะเป็นผู้แทนสอบตกทุกราย และเหตุการณ์ครั้งนี้ นายพรชัยยืนยันว่าถูกการเมืองกลั่นแกล้ง แต่ก็พร้อมจะชี้แจงทุกอย่าง ซึ่งขณะนี้ได้ส่งตัวแทนไปชี้แจงกับกรรมาธิการ ปปช.สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วด้วย
วันนี้( 11 ก.พ.) นายพรชัย โควสุรัตน์ นายก อบจ.อุบลราชธานี นำรถไถที่มอบให้สหกรณ์ลุ่มน้ำมูล ซึ่งมีนายอุทัย พละชัย เป็นผู้จัดการไปไถนาให้สมาชิกของสหกรณ์ และมีการเรียกเก็บเงินจากสมาชิกในราคาสูง กระทั่งคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ปปช.) สภาผู้แทนราษฎรลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมระบุว่าการจัดซื้อรถไถนาจำนวน 440 คันขององค์การบริหารส่วนจังหวัด อาจไม่ได้สเปกส่อไปในทางทุจริตนั้น
นายพรชัยชี้แจงว่า ได้สั่งซื้อรถไถนาดังกล่าวตั้งแต่ปี 2549 มีการประกวดราคาผ่านระบบอีอ็อคชั่น จนได้ราคาที่เหมาะสมไม่ได้แพงจนเกินเหตุ และการจัดซื้อรถไถนาหรือรถฟาร์มแทรคเตอร์ทั้งหมดของ อบจ.ได้สั่งซื้อพร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น ฝายไถ ซึ่งมีทั้งแบบ 3 ฝาย 5 ฝายระบบโรตารี่ พร้อมจอบหมุน เมื่อรวมอุปกรณ์ส่วนควบกับตัวรถแล้ว ราคาอยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาทต่อคัน ซึ่งเป็นราคาตามท้องตลาด และการจัดซื้อได้ทำเรื่องขออนุมัติต่อสภา อบจ. พร้อมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดก็เห็นชอบด้วย
ส่วนที่กรรมาธิการฯมาตรวจสอบและระบุสเปกรถไม่ตรงกับที่ตรวจรับนั้น อาจเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ จึงดูเลขฝาสูบเป็นเลขรหัสประจำเครื่องยนต์ ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน ซึ่งกรณีดังกล่าวคงต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้น
และนายพรชัยยังระบุอีกว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ยังจะเดินหน้าจัดซื้อรถไถนาให้กับชาวบ้านต่อไป เพราะจำนวนรถไถนาที่มีอยู่ยังจำนวนน้อย ไม่พอกับความต้องการของประชาชนที่มีหมู่บ้านมากถึง 2,699 หมู่บ้าน ซึ่งทั้งหมดมีความจำเป็นต้องมีรถไถไว้ช่วยทำเกษตรกรรมตลอดทั้งปี
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะมีนักการเมืองบางคนบางพรรคเสียฐานคะแนนนิยมหรือไม่นั้น เท่าที่ทราบมาใครต่อต้านโครงการซื้อรถไถนาให้ชาวบ้าน มักจะเป็นผู้แทนสอบตกทุกราย และเหตุการณ์ครั้งนี้ นายพรชัยยืนยันว่าถูกการเมืองกลั่นแกล้ง แต่ก็พร้อมจะชี้แจงทุกอย่าง ซึ่งขณะนี้ได้ส่งตัวแทนไปชี้แจงกับกรรมาธิการ ปปช.สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วด้วย
