ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจร่วมทหารเรือ รวบอดีตครูรอบ 2 หลังลูกสาวกู้หนี้นอกระบบนับแสนบาท ประกันตัวคดีค้ายาบ้า ไม่สำนึกผิดกลับมาค้ายาบ้าอีกครั้ง เจอล่อซื้อรวบคารัง ลั่น! ท้าทายลูกหนี้หากต้องการทวงเงินให้เก็บที่ ผกก.หรือตามเข้าไปเก็บในคุก
วันนี้ (10 ก.พ.53) พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พ.ต.ท.เชษฐา กีชวรรณ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สวป. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน นำโดย นาวาเอก เชาวลิต จาดฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองข่าวหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ทำการจับกุมตัว นางปวันรัตน์ พัสตรานนท์ หรือครูน้อง อายุ 54 ปี พักบ้านเลขที่ 34/15 ม.2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ ในข้อหา มียาเสพติดประเภทที่ 1ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย โดยมีของกลางยาบ้าจำนวน 8 เม็ด เงินสด 2,000 บาท
พ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผกก.สภ.สัตหีบ เปิดเผยว่า จากการจับกุม ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตครูสอนหนังสืออยู่ในโรงเรียนธรรมวิทยา และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลสัตหีบ โดยมีพฤติกรรมค้ายาบ้าอยู่ภายในซอยธรรมวิทยา และเคยถูก นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ จับกุมในข้อหา ค้ายาเสพติด เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.52 ที่ผ่านมา และบุตรสาวได้ใช้หลักทรัพย์เงินสดจำนวน 150,000 บาท ประกันตัวออกมา และได้รับรายงานจากฝ่ายข่าวว่าผู้ต้องหาได้กลับมาจำหน่ายยาบ้าอีกครั้ง จึงได้ส่งชุดสืบสวนติดตามดูพฤติกรรมจนแน่ชัด จึงได้วางแผนโดยให้สายลับเข้าทำการล่อซื้อยาบ้า จากผู้ต้องหาภายในบ้านพัก จำนวน 10 เม็ด ในราคา 2,000 บาท จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในที่สุด
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นแกนนำชุมชนต่อต้านยาเสพติดซอยธรรมวิทยา ในโครงการ ยุทธการโจรปราบโจร เป็นอดีตครูสอนโรงเรียนธรรมวิทยา เป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข และสาเหตุที่หันมาจำหน่ายยาบ้าเพราะเป็นหนี้นอกระบบ ล่าสุดลูกสาวต้องหายืมเงินกู้นอกระบบมาจำนวน 150,000 บาท เพื่อประกันตัว ด้วยหนีสินที่มากมาย และดอกเบี้ยสุดโหด จึงต้องหันมาจำหน่ายยาบ้าล้างหนี้นอกระบบ โดยรับยาบ้ามาจากเอเย่นต์ ชื่อนายฉุน ภายในซอยธรรมวิทยา ราคาเม็ดละ 180 บาท และมาจำหน่ายในราคา 230 บาท
และผู้ต้องหายังได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยอาการท้าทายอีกว่า หากเจ้าหนี้รายใดต้องการมาเก็บเงินที่บุตรสาวกู้มา ให้ไปเก็บกับ ผกก.สภ.สัตหีบ เพราะดันมาจับตนเข้าคุก จึงไม่สามารถขายยาบ้าใช้หนี้ได้ หรือไม่ก็ให้ตามไปเก็บในเรือนจำกลางหนองปลาไหล จังหวัดชลบุรี ซึ่งขณะที่ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวไม่มีทีท่าที่จะสลดกับความผิดที่ทำแม้แต่น้อย