ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปลัดอำเภอสัตหีบ เมืองชลบุรี พร้อมอาสาสมัครล่อซื้อยาบ้าสองผัวเมียอดีตข้าราชการครู ตะลึงหน้าฉากเป็นคนดีของสังคม เป็นอาสาสมัคร นักสังคมสงเคราะห์ แกนนำชุมชน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
วันนี้ (15 ธ.ค.) นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ ได้ส่งอาสาสมัครรักษาดินแดน และอาสาสมัครประจำหมู่บ้านซุ่มดูพฤติกรรมความเคลื่อนไหวภายในบ้านเลขที่ 34/15 หมู่ที่ 2 ซอยธรรมวิทยา ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นางปวันรัตน์ พัสตรานนท์ หรือครูน้อง อายุ 56 ปี อดีตครูสอนโรงเรียนธรรมวิทยา และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลสัตหีบ พบว่าได้มีคนแปลกหน้าเข้าออกบ่อยครั้ง และได้พบลูกชายของครูสอนอยู่ในพื้นที่อำเภอสัตหีบออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ติดตามเรียกให้หยุดสอบถามข้อเท็จจริง จนทราบว่าเข้าไปซื้อยาบ้าจากครูน้องมาเสพ จึงได้รายงานให้นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบทราบ
ต่อมา นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอ พร้อมอาสาสมัครได้ให้ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ลูกครูย้อนกลับนำธนบัตรถ่ายเอกสาร พร้อมลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เข้าไปทำการล่อซื้อยาบ้า จาก นางปวันรัตน์ หรือครูน้อง ภายในบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่า สามารถซื้อยาบ้ามาได้ นายเอ นำยาบ้ามาส่งให้เจ้าหน้าที่ จึงได้นำกำลังเข้าทำการตรวจค้น พบยาบ้าบรรจุอยู่ในหลอดพลาสติกแข็ง จำนวน 6 เม็ด เงินสด 4,461 บาท โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 4 เล่ม เอกสารเกี่ยวกับการกดเงินจากเอทีเอ็มจำนวนมาก จึงได้ยึดมาไว้เป็นหลักฐาน และขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในบ้าน นายณรงค์ พัสตรานนท์ อายุ 62 ปี ผู้เป็นสามีอดีตครูสอนโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดระยองได้วิ่งหนีออกไปทางหน้าต่างบ้านชั้นเดียว เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้
จากการสอบสวน นางปวันรัตน์ หรือครูน้อง ให้การรับสารภาพว่า เคยเป็นแกนนำชุมชนต่อต้านยาเสพติดซอยธรรมวิทยา ในโครงการ ยุทธการโจรปราบโจร เป็นอดีตครูสอนโรงเรียนธรรมวิทยา เป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข และสาเหตุที่หันมาจำหน่ายยาบ้าเพราะเป็นหนี้นอกระบบ ประมาณ 60,000 บาท ลงทุนค้าขายก็ขาดทุน จึงหันมาจำหน่ายยาบ้า ส่วนสามีรับรู้ว่าทำอะไร ไม่คิดว่าจะถูกจับเพราะรู้จักกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในพื้นที่สัตหีบ และใกล้เคียง
นายสุรเชษฐ์ แก้วคำ ปลัดอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนว่า ครูน้องซึ่งเป็นบุคคลในสังคมเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างทุกแวดวงของสังคม เคยเป็นครู อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่กลับคิดชั่วค้ายาบ้า จึงได้ติดตามพฤติกรรมมาหลายเดือนเมื่อมีโอกาสเหมาะจึงให้สายล่อซื้อดำเนินการ จนสามารถจับได้พร้อมของกลาง และสามีที่อยู่ในบ้านด้วยกัน จึงตั้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ทั้งครูน้องและครูณรงค์ และที่สำคัญลูกศิษย์ครูน้องเคยสอนได้เข้าร่วมจับกุมด้วยเพราะสุดทนที่เห็นขายยาบ้าให้ลูกครูด้วยกัน ขาดจิตสำนึกความเป็นครู