ตาก- กุหลาบพบพระ เริ่มบานสะพรั่งรับวันวาเลนไทน์-ตรุษจีน ล่าสุดราคาซื้อขายเริ่มพุ่งขึ้นถึง 7 เท่าจากปกติ แต่ก็ยังมียอดจอง-สั่งซื้อมากกว่า 2 ล้านดอก/วัน ทำเงินสะพัดวันละกว่า 20-25 ล้านบาท
ก่อนถึงวันวาเลนไทน์และตรุษจีนปีนี้ การสั่งจองและซื้อ-ขาย ดอกกุหลาบ ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นแหล่งผลผลิตทางการเกษตรขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ค่อนข้างคึกคักมากเป็นพิเศษ โดยที่ไร่กุหลาบ ต่างๆ เกษตรกรเริ่มเร่งเพิ่ม – เก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อส่งไปยังตลาดต่างๆในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด รวมถึงต่างประเทศทั้งสิงคโปร์-เวียดนาม-มาเลเซีย –ไต้หวัน-ฮ่องกง ฯลฯ อย่างเต็มกำลัง ซึ่งในปี 2553 มีการสั่งจองดอกกุหลาบแดงจำนวนมาก
เกษตรกรเริ่มตัดและจัดเก็บดอกกุหลาบส่งไปขายในช่วง 1 อาทิตย์ ก่อนเข้าสู่วันที่ 14 ก.พ. ด้วยวิธีการจัดเก็บและแพ็คดอกกุหลาบให้สามารถอยู่ 7-10 วัน ทำให้เริ่มมีการทยอยส่งดอกกุหลาบไปยังตลาดทั่วประเทศในช่วงนี้เฉลี่ยวันละ 1-2 ล้านดอก มีรายได้กระจายในพื้นที่วันละ 20-25 ล้านบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า ซึ่งขณะนี้กุหลาบชุดแรกก่อน “วันวาเลนไทน์” เริ่มถูกส่งออกจากแหล่งผลิต อ.พบพระ ไปสู่ต่างประเทศ มีทั้งกุหลาบแดง-ชมพู-และกุหลาบตกแต่งสีสันต่างๆ ส่วนในช่วง 2-3 วันก่อนวันวาเลนไทน์จะเริ่มนำออกไปจำหน่ายตลาดในประเทศ
เจ้าของไร่กุหลาบรายหนึ่งของ อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวว่า ในปี 2553 ราคาดอกกุหลาบจะมีราคาสูงขึ้นกว่าปีก่อนๆ เพราะปีนี้ถือว่าเศรษฐกิจดี พ่อค้าประชาชนมีเงินมากขึ้น ทำให้ยอดการสั่งจองจากพื้นที่ต่างๆทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ เพิ่มมากกว่าปีที่แล้ว ส่งผลทำให้ราคาพุ่งมากถึง 7 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงปกติ และในปีนี้โชคดีที่ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ อากาศในพบพระ มีอุณหภูมิที่พอดีกับการเติบโตและออกดอกผลดีกับกุหลาบ ทำให้กำลังผลิต – การสั่งซื้อ เพิ่มขึ้นทันที 3 เท่า
เขาบอกว่า ภายในสัปดาห์นี้ ราคากุหลาบ เฉลี่ยจะจำหน่ายที่ราคาดอกละ 1.50 -2 บาทเท่านั้น แต่ในสัปดาห์หน้าผลผลิตกุหลาบชุดใหม่ในวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. ราคาจะสูงขึ้นถึงดอกละ 8 - 10 บาท โดยที่ขายดีที่สุดคือกุหลาบสีแดง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการ สำนักงานเกษตรจังหวัดตาก กล่าวว่า ราคาดอกกุหลาบในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ ที่ปลูกในพื้นที่ อ.พบพระ กว่า 4,000 ไร่ มีเกษตรกรผู้ปลูก 130-150 ราย จะสามารถนำออกจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศ-ต่างประเทศ ได้วันละกว่า 2 ล้านดอก และขายได้เฉลี่ยราคาดอกละ 6 -8 บาท และ 10 บาท ตามขนาด-ความงาม ทำให้มีเงินสะพัดจากการขายดอกกุหลาบในช่วงเทศกาลวันแห่งความรัก(วาเลนไทน์) กระจายไปยังเกษตรกรในพื้นที่ทุกราย มากกว่า 20 -25 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งในปีนี้ตรงกับเทศกาลวันตรุษจีนอีกด้วย
ทั้งนี้ปี 2553 ราคาดอกกุหลาบ ได้พุ่งสูงขึ้นกว่าในช่วงปกติ 6-7 เท่า จากเดิมราคาดอกละ 1-2 บาท เป็นราคาดอกละ 6-8 บาท และ 8-10 บาท ตามแต่ขนาดและชนิด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เกรด คือเกรด A ราคาดอกละ 8-10 บาท เกรด B 6-8 บาท และเกรด C 4-6 บาท
ส่วนกุหลาบที่ได้รับความนิยมสูงสุด มี 2 ชนิดคือแกลกาล่า สีแดง ไม่มีหนาม และขาวแก้ว สีขาว ดอกใหญ่คอโต รวมทั้งกุหลาบตกแต่งสีสรร ต่าง ฯลฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะเดียวกัน อ.แม่สอด จ.ตาก ได้จัดกิจกรรม ต่างๆมากมาย ฉลองในวันวาเลนไทน์และตรุษจีน รวมทั้งการแข่งขันกีฬาเดิน-วิ่ง แม่สอดมินิฮาร์ฟมาราธอน ชายแดนไทย-พม่า ริมแม่น้ำเมย ในวันนั้นจะมีนักกีฬาและนักท่องเที่ยวไทย –ต่างชาติ เข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก ซึ่งมีการจัดกิจกรรมมอบดอกกุหลาบแดงแทนความรักให้กัน ทำให้มีการสั่งซื้อและนำดอกกุหลาบ ไปใช้ในวันดังกล่าวเพิ่มขึ้นอีกเป็นพิเศษ
