กาฬสินธุ์ - เรื่องของไสยศาสตร์ความเชื่อเรื่องผีของชาวอีสานยังคงเป็นสิ่งเร้นลับ เพราะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ที่ตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ พบชาวบ้านที่มีอาการคล้ายกับถูกวิญญาณร้ายของผีปอบเข้าสิ่งสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านถึง 2 หมู่บ้าน จนต้องนิมนต์พระไปขับไล่กับทั้งคืน
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.กาฬสินธุ์ รายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดเหนือธรรมชาติ หลังจากที่พบว่ามี หญิงวัยกลางคน อายุประมาณ 30-40 ปี มีอาการคล้ายกับถูกผีเข้า ซึ่งรายแรกคือ นางแดง สมวัย อายุ 36 ปีชาวบ้านจากตำบลหลุบ อำเภอเมือง ส่วนอีกรายคือ นางกาญจนา หวังชาลี อายุ 31 ปี ชาวชุมชนโคกศรี อำเภอยางตลาด ซึ่งทั้งสองมีอาการตัวสั่น พูดจาไม่รู้เรื่อง ส่งเสียงร้องโหยหวนตลอดเวลา
จนชาวบ้านหวาดผวาเพราะเชื่อว่าถูกวิญญาณร้ายของผีปอบเข้าสิง และได้นำตัวหญิงทั้งสองคนไปที่วัดดอนยานาง ตำบลดอนสมบูรณ์ เพื่อทำพิธีขับไล่วิญญาณร้าย โดยไม่ได้นัดหมาย
ทันทีที่ได้นำตัว หญิงทั้งสองคนไปถึง ท่ามกลางกระแสข่าว ทำให้มีชาวบ้านไปมุ่งดูจำนวนมาก โดยพระครูประสุตธรรมสุนทร เจ้าอาวาส และ พระลูกวัดรวมถึง ขจ้ำ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวอีสาน ได้ประกอบพิธีจับผีปอบด้วยการขึงด้ายสายสิญจน์ ไปทั่วบริเวณวัดโดยเฉพาะที่โบสถ์จะเป็นแท่นพิธี มีการนำตัวหญิงทั้งสองคนพรมน้ำมนต์ขณะที่ผู้ที่ถูกปอบเข้าก็ตะโกนเพ้อเจ้อไปต่างๆนานา
บรรยากาศแตกตื่นเริ่มทวีคูณขึ้น หลังจาก ขจ้ำ ได้เข้าทรงโดยระบุว่า มีวิญญาณร้ายนับร้อยดวงของผีปอบกำลังจ้องที่จะทำร้ายคนในหมู่บ้าน จากบรรยากาศที่คึกคักกลายเป็นความหวาดกลัวชาวบ้านจึงได้พากันล้อมวงและตะโกนขับไล่ผีปอบ
ขณะที่พระและขจ้ำ ก็ได้พรมน้ำมนต์ พร้อมกับสวดเรียกวิญญาณผีร้ายไปลงกระบอกไม้ไผ่ตลอดทั้งคืนได้ถึง 100 ตัว ขณะที่การขับไล่วิญญาณร้ายที่เข้าสิงหญิงสาวทั้งสองคนก็สามารถขับไล่ได้เป็นปกติ
พระครูประสุตธรรมสุนทร เจ้าอาวาสวัดดอนยานาง กล่าวว่า ในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มีผีปอบอาละวาด เนื่องจากจะอยู่ในช่วงฤดูปล่อยของหรือครอบครูส่วนผีปอบที่เกิดขึ้นนี้ เป็นกลุ่มของผีจากคนที่มีวิชาอาคม ชาวบ้านที่ออกหาของป่าในช่วงกลางคืนจึงควรระวัง สำหรับเครื่องสำหรับทำพิธีไล่ผีปอบนั้นจะต้องทำขัน 5 จัดเตรียมหญ้าแฝกและทำพิธีไล่โดยใช้คาถาที่ร่ำเรียนมาจากบรรพบุรุษ
พระครูประสุตธรรมสุนทร กล่าวอีกว่า ตามคำบอกเล่า คนอีสานเชื่อว่า "ผีปอบ" มีต้นกำเนิดมาจากผู้ที่มีวิชา ไสยศาสตร์ มนต์ดำจนแก่กล้า สามารถใช้อำนาจอันเข้ม ขลังจากเวทมนตร์คาถาไปกระทำร้ายหรือทำลาย ชีวิตผู้อื่นได้ เช่น ทำ เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝัง รอยเสกหนังควาย เสกตะปูเข้าท้อง หรือใช้มนตราบังคับวิญญาณ ภูตผีไปเข้าสิง วิชาไสย ศาสตร์เหล่านี้มีข้อห้าม ข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วย ผู้ที่มีวิชาอาคมทางไสยศาสตร์ซึ่งพระ พุทธเจ้า ทรงระบุว่า เป็นเดียรฉาน วิชา จะต้องระวังไม่ให้ละเมิด ข้อห้าม ข้อปฏิบัติโดยเด็ดขาด หากกระ ทำผิด ข้อห้าม
ซึ่งชาวอีสานเรียกว่า "คะลำ" ก็จะเกิดโทษหนักในข้อ "ผิดครู" วิญญาณบรมครู จะลงโทษ ให้กลายเป็น ปอบ หรืออีกประการหนึ่งของผู้ที่ กลายเป็นปอบก็คือ เล่น คาถาอาคม อย่างคลั่งไคล้ และใช้ความขลังแห่งวิชา มนต์ดำไปทำลาย ทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่กลัว บาปกลัว กรรมกระทำชั่วเป็นอาจิณกรรม กระทั่งถูกอาถรรพณ์ของไสยเวทย์ย้อนกลับมาเข้าตัวเองกลาย เป็น ปอบไปในที่สุด
นายจิระพงษ์ ภูช่างทอง อายุ 53 ปี ญาติผู้ที่ถูกผีปอบเข้า กล่าวว่า เมื่อช่วงหัวค่ำหลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้วนางแดง สมวัย อยู่ดีๆกลับมีอาการเหม่อลอย พูดเป็นภาษาไม่เหมือนภาษาคนและฟังไม่รู้เรื่อง ญาติพยายามถามเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ แถมยังทำท่าทางแปลกเดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวร้องไห้ ซึ่งเป็นอาการของคนถูกผีปอบเข้าสิง ญาติจนปรึกษากันและนำตัวไปให้พระทำพิธีไล่ผีปอบ
ทั้งนี้ที่ผ่านมาทราบว่านางแดงไม่เคยไปลบหลู่หรือล่วงเกินสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด คาดว่าผีที่เข้าสิงน่าจะเป็นผีปอบที่ถูกขับไล่มาจากหมู่บ้านอื่นและเข้ามาสิงนางแดง