ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “นักรบดำ” ค่ายปักธงชัยโคราช กว่า 200 นาย ตบเท้าแสดงพลังปฏิญาณตนและวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์นักรบดำ เดือดออกโรงปกป้อง “อนุพงษ์” จวก “เสธ.แดง” ไม่เหลือแล้วซึ่งเกียรติภูมิและศักดิ์ศรี พร้อมออกแถลงการณ์ประณามผู้ที่เอาชื่อเสียงคุณความดี “นักรบดำ” สะสมมานานไปเป็นเครื่องมือเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง
วันนี้ (29 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์นักรบดำ กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย บ.หนองหว้า ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กำลังพลทหารพรานหรือนักรบดำ สังกัดหน่วยทหารพรานที่ 26 พร้อมด้วยอดีตอาสาสมัครทหารพรานและ ชมรมนักรบดำค่ายปักธงชัย จ.นครราชสีมา รวมกว่า 200 นาย ได้ร่วมกันแสดงพลังทำพิธีวางพวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์นักรบดำ พร้อมกล่าวปฏิญาณตนปกป้องสถาบันกองทัพบก และให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ถูก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีด้วยถ้อยคำรุนแรง ไร้ซึ่งระเบียบวินัยและธรรมเนียมทหารที่ดี ไม่เคารพผู้บังคับบัญชาและสร้างความแตกแยกเสื่อมเสียให้กับกองทัพบก
พร้อมทั้งได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ประณามกลุ่มบุคคลที่นำเอากลุ่มอดีตอาสาสมัครทหารพรานและทหารพรานในปัจจุบันไปเป็นเครื่องมือเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง สร้างความเสื่อมเสียให้กับทหารพราน พร้อมยืนยันนักรบดำจะยืดมั่นในอุดมการณ์ที่ได้ปฏิญาณตนไว้ว่าจะจงรักภักดีต่อสถานบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เป็นชีวิตจิตใจ และจะเคารพนับถือผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น
ก่อนยื่นแถลงการณ์ดังกล่าวผ่าน พ.อ.อดุลย์ บุณธรรมเจริญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย เพื่อนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงต่อไป
นายอัมพร จันทร์ชื่นชม อดีตประธานชมรมนักรบดำ จ.นครราชสีมา กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวของชมรมนักรบดำ จ.นครราชสีมาครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เนื่องจากพวกเรามาให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่ถูกกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองออกมาโจมตีอย่างเสียๆ หายๆ อย่างหนักหน่วง แต่ท่านในฐานะทหารอาชีพยังใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว ไม่ใช้อารมณ์ในการตอบโต้ เช่นเดียวกับพวกเรานักรบดำที่มีศักดิ์ศรีจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่การที่การเมืองนำเอานักรบดำไปเป็นเครื่องมือการเคลื่อนไหวทางการเมืองนั้น ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวอย่าได้เอาชุดนักรบดำไปเคลื่อนไหว และขอเรียกร้องเหล่าอดีตนักรบดำอย่าได้ทำให้คุณงามความดีของพวกเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเสื่อมเสีย
“ส่วนกรณี เสธ.แดง นั้น สำหรับนายทหารที่ยังรับราชการอยู่หรือที่เกษียณไปแล้วการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอันเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ไม่สมควรสวมเครื่องแบบทหารโดยเฉพาะยิ่งเป็นถึงนายทหารระดับสูงด้วยแล้ว ตรงนี้เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของท่านมันไม่เหลือแล้ว พวกเราขอยืนยันว่าทหารพราน กรมทหารพรานที่ 26และชมรมนักรบดำ ที่มากันวันนี้ไม่ได้หวังลาภยศ ตำแหน่ง หรือสิ่งอื่นใดแอบแฝง พวกเรามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เห็นถึงความหนักแน่นของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และพวกเราอยากให้บ้านเมืองสงบอยู่กันด้วยความรักสามัคคี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯของเรา” นายอัมพรกล่าว
ทางด้าน ทหารพรานบุญรอด พานสูงเนิน อายุ 56 ปี ตัวแทนกำลังพลกรมทหารพรานที่ 26 เป็นแกนนำอ่านแถลงการณ์ดังกล่าวต่อหน้าอนุสาวรีย์นักรบดำ และผู้บังคับบัญชา กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย ระบุว่า พวกเรารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากที่มีบุคคลกลุ่มหนึ่งอ้างตนเป็นทหารพราน หรืออดีตทหารพรานค่ายปักธงชัย หรือทหารพรานจากกรมกองต่างๆออกมาแสดงพลังในทางไม่ดี ทำความเสื่อมเสียให้กับค่ายปักธงชัย หรือพี่น้องทหารพรานที่รับราชการอยู่หรืออดีตทหารพรานให้เสียหายต่อชื่อเสียง
โดยพฤติกรรมดังกล่าวไม่ใช่แนวทางอุดมการณ์ที่ทหารพรานได้ปฏิญาณตนว่า จะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เป็นทหารพรานของประเทศไทย ไม่ใช่ของผู้ใดกลุ่มใดหรือสีใด ทหารพรานไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบันจะยึดถืออุดมการณ์เป็นยิ่งยวด ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลัก และประชาชนเป็นชีวิตจิตใจ พร้อมเคารพนับถือผู้บังคับบัญชาทุกลำดับชั้นล
ฉะนั้น ในฐานะเป็นตัวแทนทหารพรานขอเรียกร้องพี่น้องนักรบดำ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบันจงยึดมั่นในอุดมการณ์และคำปฏิญาณที่ให้ไว้ และขอประณามผู้ที่เอาชื่อเสียงคุณความดีที่พวกเรานักรบดำได้สะสมไว้ไปแอบอ้างหรือต่อรองคู่กรณีเพื่อให้ได้มา ซึ่งสิ่งที่ตัวเองและพวกพ้องปรารถนา ขอให้ท่านยุติการกระทำของท่านเสีย
“หากมีบุคคลใดเอาทหารพรานปัจจุบันและอดีตทหารพรานไปแอบอ้าง พวกเราถือว่าไม่ใช่ทหารพราน เพราะทหารพรานมีอุดมการณ์และยึดมั่นในสถาบันทั้งสาม และประชาชนเป็นชีวิตรจิตใจ จะไม่กระทำการใดๆที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันดังกล่าวเป็นอันขาด” ทหารพรานบุญรอดกล่าว
ด้าน พ.อ.อดุลย์ บุณธรรมเจริญ ผบ.กรมทหารพรานที่ 26 ค่ายปักธงชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ทหารพรานทั้งอดีตและปัจจุบันต่างได้รับข่าวสารว่ามีนายทหารระดับสูงได้เอาชื่อเสียงและเกียรติยศ เกียรติภูมิของอดีตทหารพรานที่ทำไว้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวต่างๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของทหารเสียหาย ดังนั้นทหารพรานและอดีตทหารเหล่านี้เขาเลยไม่สบายใจ ซึ่งตนจะนำความไม่สบายใจนี้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้แก้ไขต่อไป
ทั้งนี้ การออกมาแสดงพลังลักษณะนี้ ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เขามาปกป้องศักดิ์ศรีของอดีตทหารพรานและทหารพรานปัจจุบัน การที่ชื่อเสียงทหารพรานที่สร้างมาแต่อดีตจะมาสิ้นสุดในสมัยของพวกเขาทุกคนคงยอมไม่ได้ และจึงได้มีการเคลื่อนไหวกัน ส่วนจะทำเพื่อหวังลาภยศ ตำแหน่งนั้นคงไม่ใช่และเป็นไปไม่ได้ เพราะทหารพรานยศสูงสุดก็คือ ทหารพราน ที่มีแค่เบี้ยเลี้ยงและค่าตอบแทนเท่านั้น
“ปัจจุบันความแตกแยกในสังคมมีมากอยู่แล้วและชื่อเสียงทหารพรานที่สั่งสมกันมาในอดีตมีมากมายมหาศาล อีกทั้งกลุ่มอดีตทหารพรานที่ออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองก็มีเพียงเล็กน้อย ดังนั้นขอความกรุณาให้คิดถึงสิ่งที่สร้างสมมาในอดีตอย่าให้มาหมดสิ้นในปัจจุบัน ขอให้ทุกคนได้ยืดมั่นในพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องความรู้รักสามัคคี เพื่อให้ประเทศชาติบ้านเมืองไปได้” พ.อ.อดุลย์ กล่าว