"สมเด็จพระเทพฯ" ทรงเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์อาคาร "หอประวัติสมเด็จพระญาณสังวรฯ" ที่กาญจนบุรี

กาญจนบุรี - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จฯเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์อาคาร "หอประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช" ที่วัดเหนือ จังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อเวลา 09.19 น.วันนี้ (29 ม.ค.53) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ การก่อสร้างอาคารหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

โดยมีนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ข้าราชการ ภาคเอกชน พร้อมด้วยประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีจำนวนกว่า 3,000 คนเฝ้ารอรับเสด็จฯ

เมื่อเสด็จถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เมื่อเสร็จพิธี จึงเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ ตรวจเยี่ยมที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

จากนั้น จึงเสด็จฯไปที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ หมู่ 1 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งเสด็จฯไปเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อค อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงเสด็จฯโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งกลับกรุงเทพมหานคร

นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมฯ ทรงเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ที่ริมน้ำแม่น้ำแควใหญ่ วัดเทวสังฆราม ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นั้นถือว่าเป็นศาสนสถานที่จะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวกาญจนบุรีในการเผยแพร่ศาสนาที่สำคัญต่อไป

อนึ่ง สำหรับโครงการก่อสร้างหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ริเริ่มโดย ดร.สิงห์ ตั้งเจริญชัยชนะ นายกสมาคมศูนย์ประสานงานองค์การเอกชนจังหวัดกาญจนบุรี และคณะกรรมการสมาคม ตั้งแต่ ปี 2549 และมีการดำเนินการประสานงามมาตลอดจนทำให้ส่วนราชการเล็งเห็นความสำคัญจึงเข้าร่วมในการการผลักดันโครงการเพื่อระดมทุนในการก่อสร้าง โดยมาจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาและชาวกาญจนบุรีที่ร่วมบริจาค

ต่อมาเริ่มได้รับสนับสนุนงบประมาณจาก อปท.ต่างๆ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี และงบประมาณจากส่วนกลางอีกส่วนหนึ่งเข้าสมทบกับเงินบริจาคจึงทำให้โครงการนี้สามารถเดินหน้าดำเนินโครงการได้