พุทธศาสนิกชนเดินทางลงนามถวายพระพรฉลองพระชันษา 96 ปี “สมเด็จพระสังฆราช” ต่อเนื่อง และเดินทางเข้าชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติอย่างหนาแน่น เจ้าหน้าที่ต้องจัดระเบียบให้เข้าชมรอบละ 50 คน
วันนี้ (2 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงานฉลองพระชันษา 96 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พุทธศาสนิกชนจำนวนมากยังเดินทางมาร่วมงาน ตั้งแต่การลงนามถวายพระพรที่ตำหนักเพ็ชร และสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งจะมีพระรูปสมเด็จพระสังฆราช และหนังสือสวดมนต์มอบให้เป็นที่ระลึก เพื่อความเป็นสิริมงคล คนละ 1 ชุด รวมทั้งมีผู้แทนหน่วยงานสำคัญ เช่น ผู้แทนเหล่าทัพ ผู้แทนกองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ที่เดินทางมาร่วมลงนามด้วย
สำหรับนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ณ อาคารมนุษยนาควิทยาทาน เนื่องจากมีประชาชนสนใจจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องจัดให้เข้าชมรอบละ 50 คน และวันนี้จะปิดเร็วกว่ากำหนด คือ เวลา 15.00 น.ส่วนวันอื่นๆ เปิดตามเวลาปกติตั้งแต่ 09.00-18.00 น.
สำหรับการประชุมวิชาการพระพุทธศาสนานานาชาติ ซึ่งใช้ภาษาบาลีเป็นภาษากลาง จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ยังดำเนินเป็นวันที่สอง ในวันนี้เป็นการอภิปรายเรื่อง พระพุทธศาสนาสู่ศตวรรษใหม่ ในหัวข้อ “พัฒนาการพุทธศาสนา” โดยผู้ร่วมอภิปราย คือ ผู้อำนวยการศูนย์พุทธศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด พระจากมหาวิทยาลัยเกลาเนีย ประเทศศรีลังกา เป็นต้น
นอกจากนี้ ในวันนี้ นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาสการสร้างอาคารหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมคณะแถลงข่าวการสร้างอาคารหอพระประวัติ พร้อมมอบแบบก่อสร้างอาคารหอพระประวัติจำลองแด่ประธานฝ่ายสงฆ์ คือ พระเทพสารเวที ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เมื่อรับแบบจำลองแล้ว จะส่งมอบกลับประธานฝ่ายฆราวาสเพื่อดำเนินการจัดสร้างต่อไป
สำหรับการจัดสร้างหอพระประวัติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระชาติภูมิเป็นชาว จ.กาญจนบุรี และเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พระประวัติและพระกรณียกิจที่ทรงมีคุโณปการต่อชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจของประชานทั่วไป จัดสร้างขึ้น ณ บริเวณริมน้ำภายในวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ใช้งบประมาณก่อสร้าง 140 ล้านบาท โดยมีงบสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประมาณ 36 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี “ทุนสร้างหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวรฯ” เลขที่ 713-0-37194-3
วันนี้ (2 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สองของการจัดงานฉลองพระชันษา 96 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พุทธศาสนิกชนจำนวนมากยังเดินทางมาร่วมงาน ตั้งแต่การลงนามถวายพระพรที่ตำหนักเพ็ชร และสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งจะมีพระรูปสมเด็จพระสังฆราช และหนังสือสวดมนต์มอบให้เป็นที่ระลึก เพื่อความเป็นสิริมงคล คนละ 1 ชุด รวมทั้งมีผู้แทนหน่วยงานสำคัญ เช่น ผู้แทนเหล่าทัพ ผู้แทนกองบัญชาการทหารสูงสุด กระทรวงกลาโหม ที่เดินทางมาร่วมลงนามด้วย
สำหรับนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ณ อาคารมนุษยนาควิทยาทาน เนื่องจากมีประชาชนสนใจจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องจัดให้เข้าชมรอบละ 50 คน และวันนี้จะปิดเร็วกว่ากำหนด คือ เวลา 15.00 น.ส่วนวันอื่นๆ เปิดตามเวลาปกติตั้งแต่ 09.00-18.00 น.
สำหรับการประชุมวิชาการพระพุทธศาสนานานาชาติ ซึ่งใช้ภาษาบาลีเป็นภาษากลาง จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ยังดำเนินเป็นวันที่สอง ในวันนี้เป็นการอภิปรายเรื่อง พระพุทธศาสนาสู่ศตวรรษใหม่ ในหัวข้อ “พัฒนาการพุทธศาสนา” โดยผู้ร่วมอภิปราย คือ ผู้อำนวยการศูนย์พุทธศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด พระจากมหาวิทยาลัยเกลาเนีย ประเทศศรีลังกา เป็นต้น
นอกจากนี้ ในวันนี้ นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาสการสร้างอาคารหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมคณะแถลงข่าวการสร้างอาคารหอพระประวัติ พร้อมมอบแบบก่อสร้างอาคารหอพระประวัติจำลองแด่ประธานฝ่ายสงฆ์ คือ พระเทพสารเวที ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เมื่อรับแบบจำลองแล้ว จะส่งมอบกลับประธานฝ่ายฆราวาสเพื่อดำเนินการจัดสร้างต่อไป
สำหรับการจัดสร้างหอพระประวัติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากสมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระชาติภูมิเป็นชาว จ.กาญจนบุรี และเป็นศูนย์กลางการเผยแพร่พระประวัติและพระกรณียกิจที่ทรงมีคุโณปการต่อชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจของประชานทั่วไป จัดสร้างขึ้น ณ บริเวณริมน้ำภายในวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ใช้งบประมาณก่อสร้าง 140 ล้านบาท โดยมีงบสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประมาณ 36 ล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี “ทุนสร้างหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวรฯ” เลขที่ 713-0-37194-3