สุรินทร์- เด็กหญิง 14 ปี เมืองช้างสู้ชีวิต ฐานะยากจนดิ้นรนฝึกซ้อมชกมวย ตระเวนขึ้นเวที“ชกมวยไทยหญิง”หาเงินเป็นค่าใช้จ่ายเรียนหนังสือและจุนเจือครอบครัว ล่าสุดน้องสาววัย 10 ขวบ เริ่มเข้าค่ายฯฝึกซ้อมเป็นตามลอยพี่สาวอีกคน ด้านพ่อเผย ชีวิตรันทดเป็นบุคคลตกสำรวจทั้งครอบครัว วอนรัฐและหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลือ
วันนี้ ( 28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากค่ายมวยเพชรบ่อทอง บ.เฉลิมพระเกียรติ หมู่ที่ 21 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่า ได้มีเด็กนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี ฐานะยากจน เข้ามาฝึกเป็นนักมวยที่ค่ายมวยเพชรบ่อทอง และตระเวนขึ้นเวทีชกมวยไทยหญิง หารายได้เป็นค่าใช้จ่ายไปเรียนหนังสือ และจุนเจือแบ่งเบาภาระครอบครัว
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเด็กหญิงนักมวยไทย ดังกล่าว ที่ บ้านสก็อม หมู่ที่ 10 ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้พบกับ ด.ญ.นพมาศ หาวหาญ หรือ “น้องแนน” อายุ 14 ปี พร้อมด้วยพ่อ-แม่ คือ นายมนัส ซวดสงค์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นพ่อ และ นางปราโมทย์ หาวหาญ อายุ 46 ปี
ด.ญ.นพมาศ หาวหาญ หรือ “น้องแนน” บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้อายุ 14 ปี เรียนหนังสือ อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ม.2) โรงเรียนศรีไผทสมันต์ ในครอบครัวมีพี่น้องด้วยกัน 4 คน คนโต เป็นผู้ชาย ตนเป็นลูกคนที่ 2 และ มีน้องสาวอีก 2 คน
ทั้งนี้ครอบครัวพวกเรามีฐานะยากจน จึงอยากช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ในการหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับตนและน้อง ๆไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน รวมทั้งเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวด้วย ประกอบตนมีใจรักในศิลปะมวยไทยอยู่แล้ว จึงได้เริ่มฝึกหัดชกมวยไทยอยู่ที่บ้านมาตั้งแต่อายุ 13 ปี ตอนเรียน ม. 1 โดยมีพ่อเป็นคู่ฝึกซ้อมมวยให้
ส่วนอุปกรณ์ ฝึกหัดชกมวยพ่อได้ไปขอสนับสนุนอุปกรณ์ นวม กระสอบทราย สนับกำบัง จากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เฉนียง
จากนั้นได้ตระเวนหาค่ายมวยที่รับผู้หญิงเข้าฝึกหัดชกมวย และพ่อได้นำไปฝากเข้าฝึกหัดชกมวยอยู่ที่ ค่ายมวยเพชร บท. หรือ ค่ายมวยเพชรบ่อทอง จนถึงทุกวันนี้
หลังจากฝึกหัดจนเป็นมวยพร้อมสำหรับการเวทีชกแล้ว ทางค่ายมวยเพชรบ่อทองได้จัดให้ขึ้นประกบชกมวยไทย ประเภทหญิง น้ำหนัก รุ่น 42 กิโลกรัม โดยขึ้นชกมาแล้วถึง 20 ครั้ง ชนะ 15 ครั้ง แพ้ 4 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง สำหรับค่าตัวนั้นขึ้นอยู่กับทางผู้จัดการชกจะพิจารณาให้ ตั้งแต่ 300-1,000 บาท เงินที่ได้มาก็ใช้จ่ายในเรื่องการเรียน และแบ่งให้แม่เก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว
“ทุกวันนี้เวลาออกจากบ้านไปซ้อมมวยที่ค่ายเพชรบ่อทอง ระยะทางราว 10 กิโลเมตร ก็จะใช้วิธีวิ่งจากบ้านไปถึงค่ายมวยฯ เพื่อฟิตร่างกายเมื่อถึงค่ายก็ลงมือซ้อมมวยทันที โดยมีเจ้าของค่ายมวย เป็นผู้ฝึกสอน ส่วนขากลับจะนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์พ่อกลับบ้านและ มีน้องสาว คือ ด.ญ.สุนิสา หาวหาญ อายุ 10 ขวบ ที่เริ่มเข้าฝึกหัดชกมวยไทยหญิง นั่งกลับด้วยกันอีกคน” น้องแนน นักชกหญิงวัย 14 ปี กล่าว
ทางด้าน นายมนัส ซวดสงค์ พ่อ “น้องแนน” เปิดเผยว่า ภูมิลำเนาเดิมตนเกิดที่ อ.บ้านโปง จ.ราชบุรี มามีครอบครัวที่ จ.สุรินทร์ ตนมีฐานะยากจนที่ดินไร่นาไม่มีทำกิน จึงประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป รายได้น้อยลูกๆต้องอยู่กินกันด้วยความลำบาก ซึ่งความจริงแล้วไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บตัวในการชกมวย แต่เมื่อเขาตั้งใจที่จะชกก็ห้ามไม่ได้ เพราะเขาบอกว่าจะหาเงินช่วยครอบครัว
นอกจากนี้ ตนยังเป็นบุคคลตกสำรวจในการแจ้งเกิดมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ส่งผลให้ลูกๆ ทั้ง 4 คนก็แจ้งเกิดไม่ได้และไม่มีบัตรประชาชน ทางอำเภอเมืองสุรินทร์ได้ออกบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนให้ ซึ่งไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรและเป็นห่วงอย่างมาก กลัวลูกๆโตขึ้นจะไม่มีหลักฐานในการทำงานเลี้ยงชีพหรือไม่ได้รับสิทธิต่างๆในฐานะคนไทย
“จึงขอความเมตตาจาก เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือพวกเราในเรื่องนี้ด้วย” นายมนัส กล่าว
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เจริญงาม อายุ 48 ปี เจ้าของค่ายมวยเพชรบ่อทอง กล่าวว่า ตนเป็นผู้ฝึกสอนศิลปะมวยไทย ให้น้องแนน และน้องสาวอีกหนึ่งคน ซึ่งพ่อเขาได้นำมาฝึกหัดชกมวยไทยที่ค่ายเพชรบ่อทองเป็นเวลาหนึ่งปีแล้วขึ้นชกมวยไทยประเภทมวยหญิงหลายครั้ง ชนะหลายครั้ง แววทางมวยดี น้ำหนัก หมัด เข่า ลูกเตะ ดี น้ำอดน้ำทนดี
ส่วนน้องแนนจะชกมวยไทยหญิงไปนานแค่ไหน นั้น ขึ้นอยู่กับ น้องแนน เอง ซึ่งปัจจุบันค่ายเพชรบ่อทอง มีนักมวยหญิงอยู่หลายคน อายุมากที่สุดในค่ายอายุ 18 ปี ซึ่งทางค่ายได้ดูแลการฝึกหัดนักมวยหญิงเหล่านี้เป็นอย่างดี