xs
xsm
sm
md
lg

มติคณะสงฆ์ไม่สึกพระมหาเลขาฯเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงโทษอาบัติอย่างเบา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาฬสินธุ์-มติคณะกรรมการสงฆ์ยังไม่สิขาบท พระมหาวีระชัย เลขาฯเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โทษอาบัติอย่างเบา แต่ให้ออกจากทุกตำแหน่ง และออกนอกพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์

ความคืบหน้ากรณีพระราชศีลโสภิต หรือหลวงพ่อหนูอินทร์เกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมืองจ.กาฬสินธุ์ ในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย)นำเอกสารบันทึกประจำวันของตำรวจร้องเรียนผู้สื่อข่าว เพื่อเรียกร้องให้พระผู้ใหญ่ดำเนินการสึกพระมหาวีระชัย วชิโร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย)วัดกลางพระอารามหลวง หลังมีความประพฤติไม่เหมาะสมสวมชุดลำรองขับรถยนต์พาสาวหนีเที่ยวจนประสบอุบัติเหตุ

ต่อมาได้มีการเรียกประชุมเจ้าคณะอำเภอทั่วทั้งจังหวัด เพื่อดำเนินการสอบสวนตามวินัยสงฆ์ กรณีพระมหาวีระชัย วชิโร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม แต่การประชุมดังกล่าว ไม่ยอมให้สื่อมวลชนที่ติดตามข่าวเข้าสังเกตการณ์ เพราะมีการล็อคประตูไว้อย่างแน่นหนา

ล่าสุด วันนี้(27 ม.ค.)ที่ศาลาวัดกลางพระอารามหลวง พระราชปรีชามุนี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าคณะอำเภอกว่า 30 รูป ร่วมกันแถลงข่าวและออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ให้ความผิดของพระมหาวีระชัยเป็นความผิดลหุกาบัติหรืออาบัติอย่างเบา แต่ให้พระมหาวีระชัยลาออกจากทุกตำแหน่ง

พระครูโพธิชยานุโยค เจ้าคณะตำบลบัวบาน เขต 1 ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แถลงว่า จากกรณีมีการร้องเรียนพระมหาวีระชัย วชิโร เลขาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าประพฤติตัวไม่เหมาะสมตามพระวินัยนั้น พระราชปรีชามุนี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการกับเรื่องนี้แล้ว โดยคณะกรรมการได้ประชุมและมีมติออกมาดังนี้

กรณีมีผู้ร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมของพระมหาวีระชัย วชิโร ตามที่รับทราบทางสื่อต่างๆนั้น คณะกรรมการได้ดำเนินการพิจารณาแล้วว่า เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากพระวินัยและข้อเท็จจริง โดยพระมหาวีระชัยได้เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการด้วยตัวเอง และได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากทุกตำแหน่ง เพื่อไม่ให้กระทบกับคณะสงฆ์ส่วนใหญ่และผู้บังคับบัญชา ซึ่งคณะกรรมการพิจารณา โดยยึดหลักตามกระบวนการทั้งฝ่ายบ้านเมือง พระธรรมวินัย พระบัญญัติคณะสงฆ์ กฎมหาเถรสมาคม ประกาศเถรสมาคม ระเบียบมหาเถรสมาคมว่าด้วยการร้องทุกข์ คณะผู้พิจารณาได้ไตรส่วนมูลเหตุแล้วมีมติ ดังนี้

1.ปรับอาบัติปาจิตตีย์ โดยแสดงอาบัติต่อหน้าสงฆ์หรือภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง 2.ปรับอาบัติถุลลัจจัย โดยแสดงอาบัติต่อหน้าสงฆ์หรือรูปใดรูปหนึ่ง และ3.ตำแหน่งทางปกครองให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการ

พระมหาวีระชัยก็ได้แสดงอาบัติต่อหน้าสงฆ์ไปแล้วก็ถือว่าบริสุทธิ์ เพราะพระสงฆ์ถือศีล 227 ข้อหากทำผิดไม่หนักให้แสดงอาบัติต่อหน้าสงฆ์ ทั้งนี้เหตุผลเพราะความผิดตามพระวินัยที่มีผู้ร้องเรียนเป็นลหุกาบัติหรืออาบัติอย่างเบา โดยพระมหาวีระชัยรับทราบและปฏิบัติตามมติคณะกรรมการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2553แล้ว

ด้านพระครูอุดมเขตคณารักษ์ เจ้าคณะอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการ กล่าวว่า มติของคณะกรรมการเป็นมติของที่ประชุม ซึ่งได้พิจารณาและสอบสวนพระมหาวีระชัย เป็นเสมือนเป็นจำเลย โดยไม่มีเจ้าทุกข์หรือโจทก์เข้ามาให้ข้อมูลแต่อย่างใด จึงเป็นการสอบสวนและทำงานฝ่ายเดียว ดังนั้น คณะกรรมการจึงให้พระมหาวีระชัยมีความผิดลหุกาบัติหรืออาบัติอย่างเบา

ขณะที่พระราชปรีชามุนี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาและพระปกครอง นอกจากจะให้พระมหาวีระชัยออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่ง ทั้งเลขานุการเจ้าคณะจังหวัด ผู้ช่วยเจ้าอาสาววัดกลางพระอารามหลวงแล้ว ยังได้ให้พระมหาวีระชัยพิจารณาตัวเองและแสดงความรับผิดชอบ คือ ให้ออกจากพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ด้วย ดังนั้นเรื่องดังกล่าวควรที่จะยุติไม่ควรที่จะมีการเสนอข่าวอีก

อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามว่าเรื่องดังกล่าวพระมหาวีระชัย ได้ก่อเหตุขึ้นจริงตามที่เป็นข่าวและหลักฐานของตำรวจหรือไม่ ซึ่งพระครูโพธิชยานุโยค เจ้าคณะตำบลบัวบาน เขต 1 ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง บอกว่าคณะกรรมการไม่สามารถให้ข้อมูลลงลึกได้ และไม่ทราบว่า ขณะนี้พระมหาวีระชัยอยู่ที่ไหน แต่ยังเป็นพระสงฆ์อยู่เหมือนเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น