บุรีรัมย์ - เกษตรกรไร้ที่ทำกินกลุ่มสภาประชาชน 4 ภาคกว่า 500 คนบุกเข้ายึดพื้นที่ป่าสระสาม บุรีรัมย์ เขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อจัดสรรเข้าปักหลักทำกินในที่ดินเดิมในอดีตก่อนถูกผลักดันออกจากเหตุการณ์สู้รบไทย-เขมร พร้อมเป็นแนวกันชนปกป้องผืนแผ่นดินไทยไม่ให้กัมพูชาลุกล้ำเข้ามาครอบครอง
วันนี้ (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ได้มีเกษตรกรและชาวบ้านผู้ไร้ที่ทำกินกลุ่มเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาคจาก จ.สระแก้ว, สุรินทร์, มหาสารคาม และ จ.บุรีรัมย์กว่า 500 คน ได้รวมตัวกันนำสัมภาระเครื่องมือทำการเกษตร บุกเข้าไปยึด แผ้วถาง เตรียมแบ่งที่ดินเพื่อจัดสรรเป็นที่ทำกินบริเวณเขตป่าสระสาม บ้านราษฎร์รักแดน ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ บนพื้นที่กว่า 500 ไร่ ซึ่งบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา และเป็นเขตรอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยกลุ่มเกษตรกรดังกล่าวระบุว่า การเข้าครอบครองพื้นที่บริเวณนี้เพื่อป้องกันการรุกล้ำเขตแดนของชาวกัมพูชาและต้องการเข้าทำกินในพื้นที่แห่งนี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย, ทหารพรานที่ 26, ตชด.215, เจ้าหน้าที่ป่าไม้และฝ่ายปกครอง อ.ละหานทราย ได้นำกำลังเข้าสกัดกั้นการบุกรุกของชาวบ้าน พร้อมเจรจาเพื่อให้ชาวบ้านหยุดแผ้วถางป่าและผลักดันออกจากป่า เนื่องจากป่าผืนนี้เป็นป่าอนุรักษ์และเป็นป่าต้นน้ำ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสมร พลเกิด ประธานเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแกนนำชาวบ้านพร้อมพวกรวม 3 คน ไปสอบสวนที่สภ.ละหานทราย แต่ยังไม่แจ้งข้อหากับแกนนำทั้ง 3 คนแต่อย่างใด
ส่วนชาวบ้านแม้จะถูกเจ้าหน้าที่ผลักดันออกจากเขตป่าสระสาม แต่ยังคงยืนยันจะปักหลักอยู่บริเวณถนนทางเข้าเพื่อรอให้มีการปล่อยตัวแกนนำที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไป และยังคงยืนยันจะเข้าทำกินในป่าผืนดังกล่าว
นายสมร พลเกิด ประธานเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ อ.บ้านกรวด และแกนนำชาวบ้านกลุ่มเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาค กล่าวว่า ที่ดินผืนดังกล่าวเคยเป็นที่ทำกินของชาวบ้านมาก่อนในอดีต และเมื่อเกิดการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ชาวบ้านจึงถูกให้อพยพออก ต่อมาจึงมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งชาวบ้านต้องการเรียกร้องให้จัดสรรพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้ชาวบ้านที่ไร้ที่ทำกินได้เข้าไปทำกินเช่นเดิม
“นอกจากนี้เจตนารมณ์ของชาวบ้าน คือ ต้องการจะปกป้องบริเวณชาวแดนนี้ ด้วยการเข้าปักหลักทำกินเพื่อเป็นแนวกันชนไม่ให้กัมพูชาเข้ามารุกล้ำเขตแดน จนต้องเสียดินแดนของไทยไป เนื่องจากบริเวณนี้อยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา” นายสมร กล่าว
ด้านนายประยูร แก้วกาญจน์ อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.8 ต.หนองแวง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในชาวบ้านที่มาเรียกร้องที่ทำกินในครั้งนี้ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลจริงใจในการแก้ไขปัญหา มีชาวบ้านอีกจำนวนมากที่ไร้ที่ทำกิน และที่ดินบริเวณนี้ก็ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งชาวบ้านต้องการเข้ามาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรุกล้ำดินแดนของชาวกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่าจะมีการปักหลักเพื่อเข้าทำกินในที่ดินผืนนี้ต่อไป