สระแก้ว - สภาประชาชน 4 ภาคก่อเหตุ นำชาวบ้านจาก 4 จังหวัดมาลงทะเบียนที่ สระแก้ว เพื่อรับสิทธิ์ได้รับที่ดินบริเวณแนวชายแดน ด้านชาวบ้านในพื้นที่รวมตัวกันปิดกั้น ไม่ให้ชาวบ้านที่มาจากต่างจังหวัด เข้าไปยังพื้นที่ชายแดน
วันนี้ ( 25 ม.ค.53 ) ผู้สื่อข่าวรายจากจังหวัดสระแก้วว่า กรณีที่แกนนำ สภาประชาชน 4 ภาค คือ นายประพาส โงกสูงเนิน ประธานเครือข่ายประชาชนอีสาน สภาประชาชน 4 ภาค และนายประสิทธิ์ จงแจ้งกลาง ประธานเครือข่ายฯ จังหวัดสระแก้ว ได้นำชาวบ้านจากจังหวัดสุรินทร์ ศรีษะเกษ จันทบุรี และตราด มาชุมนุมลงทะเบียนกันที่หน้าที่ว่าการอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา โดยชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่าเมื่อลงทะเบียนแล้วจะมีสิทธิ์ได้รับที่ดินบริเวณแนวชายแดน อำภอตาพระยา โคกสูง และอำเภออรัญประเทศ
ทั้งนี้ อ้างว่าหน่วยงานของรัฐ โดยไม่แจ้งว่าเป็นหน่วยงานใด จะแจกที่ดินทำกินตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณอำเภอตาพระยาและอำเภอโคกสูงให้แก่ราษฎรครอบครัวละ 15 ไร่ โดยให้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกและให้ร่วมเดินทางไปลงทะเบียนจริง ที่อำเภอโคกสูง ในวันที่ 25 มกราคม 2553 นี้ พร้อมได้กับชักชวนให้ร่วมเดินทางไปอำเภอตาพระยา และอำเภอโคกสูง เพื่อไปสำรวจพื้นที่และจับจองที่ดินบริเวณแนวชายแดนเป็นของตนเอง
ทำให้วันนี้ ชาวบ้านได้เดินทางมาดูพื้นที่ ที่อยู่บริเวณแนวชายแดนดังกล่าว เมื่อชาวบ้าน 11 หมู่บ้าน ในอำเภอโคกสูง ทราบข่าว จึงรวมตัวกันปิดถนนเข้าหมู่บ้านโคกสูง เพื่อสกัดไม่ให้ ชาวบ้านที่มาจากต่างจังหวัดเข้าไปยังพื้นที่ชายแดน
จากการสอบถามชาวบ้านที่มาลงชื่อ เพื่อขอที่ดินทำกิน บอกว่าแกนนำ ประชาชน 4 ภาค ได้บอกว่า ที่ดินตามแนวชายแดนด้านนี้ ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และถูกชาวเขมรยึดครองไว้ พวกตนจึงได้เดินทางมาเพื่อหวังจะได้ ส่วนแบ่งที่ดินมาทำมาหากิน
นายยุทธนา นุชนาจ นายอำเภอโคกสูงได้ออกมาชี้แจงให้ชาวบ้านที่เดินทางมาชุมนุมจำนวนพันกว่าคน ได้เข้าใจถึงที่ดินดังกล่าวว่า ที่ดินทั้งหมดได้มีเจ้าของแทบทั้งสิ้น แต่ที่ทางราชการยังไม่อนุญาตให้เข้าไปอยู่อาศัย เนื่องจากยังมีกับระเบิดอยู่และบางแห่งมีปัญหาเรื่องการแบ่งเขตแดน จึงมีความจำเป็นที่จะยังไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปอยู่อาศัย ส่วนบริเวณบ้านโคกสูงชาวบ้าน 11 หมู่บ้าน ชุมนุมปิดถนนไม่ให้ชาวบ้านที่มาจากจังหวัดต่างๆ เข้าไปในพื้นที่ ทำให้ตำรวจและทหาร ต้องตรึงกำลัง หวั่นชาวบ้านปะทะกัน
ด้านนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เผยว่าเรื่องดังกล่าว จังหวัดสระแก้วได้รับรายงานจากอำเภอในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และได้ประสานไปยังอำเภอต่างวของจังหวัดให้ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนรับทราบว่า อย่าไปเชื่อคำชักชวนดังกล่าว พร้อมให้ข้อมูล ประชาชนในพื้นที่ทราบดังนี้
1) ที่ดินบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณอำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูงและอำเภออรัญประเทศนั้น ปัจจุบันมีเกษตรกรและราษฎรในพื้นที่เป็นผู้ถือครองที่ดินแล้วทั้งหมดไม่มีที่ดินที่จะให้ราษฎรเข้าไปจับจองได้ และไม่มีหน่วยงานใดของรัฐที่จะดำเนินการจัดสรรที่ดินบริเวณดังกล่าวให้แก่ราษฎรแต่อย่างใด
2) ปัญหาเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ยังอยู่ระหว่างการสำรวจแนวเขต ระหว่างหลักเขตแดนซึ่งอาจ “ผิดข้อตกลงบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำเอกสารเขตทางบก ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2543 ในข้อ 5 ซึ่งกำหนดว่าให้งดเว้นการดำเนินการใด ๆ ที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมพื้นที่ชายแดน เว้นแต่จะเป็นการดำเนินการของคณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม เพื่อประโยชน์ในการสำรวจและปักปันหลักเขตแดน” และพื้นที่บางส่วนตามแนวชายแดนยังไม่มีการดำเนินการเก็บกู้ระเบิดแต่อย่างใด
พร้อมทั้งได้กำชับให้อำเภอต่าง ๆ โดยเฉพาะอำเภอตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ติดตามสถานการณ์ และรายงานความเคลื่อนไหวให้จังหวัดทราบทุกระยะ รวมทั้งให้เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เข้าไปถึงประชาชนในตำบล/หมู่บ้านทุกแห่ง ไม่ให้หลงเชื่อการชักชวนดังกล่าวซึ่งไม่เป็นความจริง ยังจะเกิดอันตรายจากกับระเบิดที่มีอยู่มากมายตามแนวชายแดน และอาจนำไปสู่การก่อความความไม่สงบและเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายต่าง ๆ ตามมา
