สระแก้ว - ศุลกากรอรัญประเทศ นำกำลังเข้าจับไม้ต้องห้ามจำนวนมาก คาดอาจเตรียมส่งออกนอกมูลค่ามหาศาล
วันนี้ (16 ธ.ค.52) นายถาวร ไทยจงรักษ์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจด่านศุลกากร เข้าสกัดจับกุมรถยนต์บรรทุก 10 ล้อพ่วง ได้ที่บริเวณท้ายหมู่บ้านคลองแผง หมู่ 10 ตำบลตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว หลังจากสืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว พริกไทยเม็ดดำ และฝ้าย ซึ่งเป็นพืชไร่การเกษตรต้องห้ามนำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ตามริมแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเข้ามาในเขตประเทศไทย
จนกระทั่งพบรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูชุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 81- 4111 ปราจีนบุรี และหมายเลขทะเบียนพ่วง 81- 4112 ปราจีนบุรี พร้อมนายวุฒิชัย สำราญ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ 11 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่เป็นคนขับรถยนต์บรรทุกดังกล่าว โดยตัวรถและตัวพ่วง ปิดคลุมด้วยผ้าเต็นท์อย่างหนา รัดด้วยเชือกไนลอนจนแน่นอย่างดีเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้รถหยุด พร้อมกับขอตรวจค้น เบื้องต้น
เจ้าหน้าที่พบไม้ในรูปลักษณะของเกวียน ที่ถูกถอดแยกออกเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่วงล้อ และชิ้นส่วนของเกวียน เต็มกะบะตัวรถและตัวพ่วง ที่มีมากกว่า 100 เล่มเกวียน ซึ่งมองดูแล้ว เหมือนเป็นไม้เก่า ที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา โดยตัวไม้ต้องห้ามดังกล่าว ล้วนเป็นไม้มะค่า ไม้เต็งรัง ไม้แดง ไม้ชิงชัน ซึ่งเป็นไม้ชั้นดีต้องห้าม ที่มีการนำไม้มาประกอบเป็นรูปเกวียน แล้วนำไปแซ่น้ำตามห้วยหนองลำคลอง โดยเฉพาะในสระน้ำกลางหมู่บ้าน เพื่ออ้างว่า เป็นไม้เก่า และยังใช้ดินโคลนทาเนื้อไม้ไว้เพื่อพรางสายตาเจ้าหน้าที่ อ้างว่าเป็นไม้เก่าที่ทิ้งแล้ว
จากการสอบสวน นายวุฒิชัย คนขับรถ อ้างว่า ตนรับจ้างขับรถดังกล่าวมาขึ้นไม้ท้ายหมู่บ้านคลองแผง และกำลังจะเดินทางนำไม้ดังกล่าวกับไปยังอำเภอกบินทร์บุรี แต่ไม่ยอมบอกถึงชื่อเถ้าแก่และเจ้าของรถ อ้างว่าว่า ไม่รู้จัก เพียงแต่มีคนรู้จักมาบอกให้มาขับรถ ที่ได้รับค่าจ้างขับเป็นเที่ยว ราคา 1,500 บาท จึงควบคุมของกลางรถยนต์และคนขับ มาควบคุมเพื่อสืบสวนขยายผล ก่อนดำเนินคดีตามกฏหมายการลักลอบนำไม้ต้องห้ามจากประเทศกัมพูชา ที่อาจมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา และสันเขาบรรทัด ซึ่งติดต่อกับเขตป่าไม้จังหวัดบุรีรัมย์
ด้านนายถาวร กล่าวเปิดเผยว่า ไม้ต้องห้ามดังกล่าว น่าจะเป็นไม้ในสภาพใหม่ ที่ถูกนำไปแซ่น้ำและใช้ดินโคลนทาไว้เพื่อให้เนื้อไม้ดูเป็นไม้เก่า ซึ่งคาดว่าไม้เหล่านี้ อาจจะนำไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง ส่งออกต่างประเทศทางเรือ ที่มีความต้องการไม้ดังกล่าว เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น และใต้หวั่น
ส่วนผู้เข้ามากว้างซื้อไม้ต้องห้าม ในพื้นที่ น่าจะมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อำเภอตาพระยา มีส่วนรู้เห็น โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่น ที่พยายามทำการค้ากับชาวต่างชาติ ทีมีชาวเกาหลี เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมยอมรับว่า ราคาของไม้ต้องห้ามดังกล่าว หากส่งออกนอกต่างประเทศ จะมีมูลค่ามหาศาลที่ยังประเมินราคาไม่ได้
วันนี้ (16 ธ.ค.52) นายถาวร ไทยจงรักษ์ นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจด่านศุลกากร เข้าสกัดจับกุมรถยนต์บรรทุก 10 ล้อพ่วง ได้ที่บริเวณท้ายหมู่บ้านคลองแผง หมู่ 10 ตำบลตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว หลังจากสืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว พริกไทยเม็ดดำ และฝ้าย ซึ่งเป็นพืชไร่การเกษตรต้องห้ามนำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ตามริมแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเข้ามาในเขตประเทศไทย
จนกระทั่งพบรถยนต์บรรทุกยี่ห้ออีซูชุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 81- 4111 ปราจีนบุรี และหมายเลขทะเบียนพ่วง 81- 4112 ปราจีนบุรี พร้อมนายวุฒิชัย สำราญ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ 11 ตำบลเมืองเก่า อำเภอกบินบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่เป็นคนขับรถยนต์บรรทุกดังกล่าว โดยตัวรถและตัวพ่วง ปิดคลุมด้วยผ้าเต็นท์อย่างหนา รัดด้วยเชือกไนลอนจนแน่นอย่างดีเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้รถหยุด พร้อมกับขอตรวจค้น เบื้องต้น
เจ้าหน้าที่พบไม้ในรูปลักษณะของเกวียน ที่ถูกถอดแยกออกเป็นชิ้นๆ ตั้งแต่วงล้อ และชิ้นส่วนของเกวียน เต็มกะบะตัวรถและตัวพ่วง ที่มีมากกว่า 100 เล่มเกวียน ซึ่งมองดูแล้ว เหมือนเป็นไม้เก่า ที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา โดยตัวไม้ต้องห้ามดังกล่าว ล้วนเป็นไม้มะค่า ไม้เต็งรัง ไม้แดง ไม้ชิงชัน ซึ่งเป็นไม้ชั้นดีต้องห้าม ที่มีการนำไม้มาประกอบเป็นรูปเกวียน แล้วนำไปแซ่น้ำตามห้วยหนองลำคลอง โดยเฉพาะในสระน้ำกลางหมู่บ้าน เพื่ออ้างว่า เป็นไม้เก่า และยังใช้ดินโคลนทาเนื้อไม้ไว้เพื่อพรางสายตาเจ้าหน้าที่ อ้างว่าเป็นไม้เก่าที่ทิ้งแล้ว
จากการสอบสวน นายวุฒิชัย คนขับรถ อ้างว่า ตนรับจ้างขับรถดังกล่าวมาขึ้นไม้ท้ายหมู่บ้านคลองแผง และกำลังจะเดินทางนำไม้ดังกล่าวกับไปยังอำเภอกบินทร์บุรี แต่ไม่ยอมบอกถึงชื่อเถ้าแก่และเจ้าของรถ อ้างว่าว่า ไม่รู้จัก เพียงแต่มีคนรู้จักมาบอกให้มาขับรถ ที่ได้รับค่าจ้างขับเป็นเที่ยว ราคา 1,500 บาท จึงควบคุมของกลางรถยนต์และคนขับ มาควบคุมเพื่อสืบสวนขยายผล ก่อนดำเนินคดีตามกฏหมายการลักลอบนำไม้ต้องห้ามจากประเทศกัมพูชา ที่อาจมีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติตาพระยา และสันเขาบรรทัด ซึ่งติดต่อกับเขตป่าไม้จังหวัดบุรีรัมย์
ด้านนายถาวร กล่าวเปิดเผยว่า ไม้ต้องห้ามดังกล่าว น่าจะเป็นไม้ในสภาพใหม่ ที่ถูกนำไปแซ่น้ำและใช้ดินโคลนทาไว้เพื่อให้เนื้อไม้ดูเป็นไม้เก่า ซึ่งคาดว่าไม้เหล่านี้ อาจจะนำไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง ส่งออกต่างประเทศทางเรือ ที่มีความต้องการไม้ดังกล่าว เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น และใต้หวั่น
ส่วนผู้เข้ามากว้างซื้อไม้ต้องห้าม ในพื้นที่ น่าจะมีเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อำเภอตาพระยา มีส่วนรู้เห็น โดยเฉพาะนักการเมืองท้องถิ่น ที่พยายามทำการค้ากับชาวต่างชาติ ทีมีชาวเกาหลี เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมยอมรับว่า ราคาของไม้ต้องห้ามดังกล่าว หากส่งออกนอกต่างประเทศ จะมีมูลค่ามหาศาลที่ยังประเมินราคาไม่ได้